เมืองพัทยาเร่งแก้ปัญหาน้ำเสียเอ่อท่วมที่ดินวัดช่องลม

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา ลงพื้นที่จี้ปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงทะเลจนเอ่อท่วมที่ดินวัดช่องลม หน้าอ่าวกระทิงลาย พร้อมประสานผู้บริหารบ้านสุขาวดี ร่วมแก้ไข

จากกรณีมีการนำภาพปัญหาน้ำเน่าเสียซึ่งถูกปล่อยทิ้งลงทะเลบริเวณหลังบ้านสุขาวดีพัทยา สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชลบุรี จนทำให้น้ำทะเลบริเวณดังกล่าวมีสภาพดำคล้ำและมีมลพิษทางกลิ่น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศมาเป็นเวลานาน รวมทั้งที่ดินว่างเปล่าของวัดช่องลม ซึ่งอยู่ติดกับที่พักคนงานของบ้านสุขาวดี ยังปัญหาน้ำเน่าเสียท่วมขังรุนแรง กระทั่งเมืองพัทยา ภายใต้การนำของ ดร.วีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบที่มาของปัญหาเพื่อทำการแก้ไขเร่งด่วนนั้น

ล่าสุด ในวันนี้ (21 มี.ค.) ดร.วีระวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยสมาชิกสภาเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ส่วนกองช่างสุขาภิบาล ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุดังกล่าวอีกครั้ง และได้มีการนำรถแบ็กโฮเข้าขุดหน้าดินตลอดแนวริมกำแพงในพื้นที่ของวัดช่องลม ที่ติดกับบ้านสุขาวดีพัทยา เพื่อตรวจดูว่าน้ำเน่าเสียที่มีปริมาณมาก และไหลเอ่อท่วมในบริเวณดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใด

กระทั่งพบว่า มีน้ำเสียไหลรั่วซึมออกมาจากรอยแยกกำแพงในระดับความลึกประมาณ 1 เมตรอยู่ตลอดเวลา จึงประสานผู้บริหารของบ้านสุขาวดีเข้าร่วมตรวจสอบ พร้อมหารือแนวทางการแก้ไข

ดร.วีระวัฒน์ ยังเผยอีกว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีปัญหาเกิดขึ้นก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ กระทั่งพบว่า มีปัญหาหลัก 3 ประการคือ 1.น้ำฝนที่ไหลออกจากตัวอาคารที่พักคนงานของบ้านสุขาวดี ได้ไหลลงสู่บ้านของประชาชนรายหนึ่งเนื่องจากไม่ได้รับทำรางน้ำรองรับไว้ จึงประสานกับทางสุขาวดี และปัจจุบันได้มีการติดตั้งพร้อมแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2.ปัญหาน้ำเสียที่ไหลลงสู่อ่าวกระทิงลาย บริเวณสันเขื่อนด้านหลังของบ้านสุขาวดี เมืองพัทยา ได้ทำการปิดกั้นทางน้ำไว้ พร้อมมอบหมายให้ทางบ้านสุขาวดีทำการแก้ไขเร่งด่วน

ประการที่ 3.กรณีของน้ำเน่าเสียบริเวณริมกำแพงในที่ดินของวัดช่องลม ซึ่งพบว่ามีปัญหามาก เนื่องจากมีน้ำเน่าเสียท่วมขังรุนแรง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการถกเถียงกันอยู่ว่ามาจากสาเหตุใด ได้นำรถแบ็กโฮมาขุดเจาะแนวกำแพงเพื่อตรวจดู จนพบว่า ปัญหาประการหนึ่งนอกจากเรื่องของน้ำซับใต้ดินแล้ว ยังมีกรณีของน้ำเสียที่ไหลรั่วซึมจากพื้นที่ของบ้านสุขาวดีออกมาตามรอยแยกของกำแพง คาดว่าจะมาจากกรณีของท่อน้ำเสียจากตัวอาคารที่พักพนักงานเกิดชำรุด หรือแตกร้าวจนทำให้น้ำไหลซึมผ่านออกมา

ในเรื่องนี้หลังตรวจพบก็ได้แจ้งให้ผู้บริหารบ้านสุขาวดีรับทราบ ซึ่งผู้บริหารยินดีจะเข้าไปทำการหารือเพื่อแก้ไข และปรับปรุงระบบเป็นการเร่งด่วนแล้ว