xs
xsm
sm
md
lg

ประปาวิกฤต! “ห้วยสำราญ” ศรีสะเกษแห้งต้องพึ่งแม่มูล-สุรินทร์ขาดน้ำดิบ 76 แห่งใน 7 อำเภอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สภาพ ลำห้วยสำราญไหล ผ่านกลางเมืองศรีสะเกษแห้งขอด การประปาส่วนภูมิภาค ต้องไปใช้น้ำดิบจากแม่น้ำมูลมาผลิตน้ำประปาหล่อเลี้ยงประชาชนชาวศรีสะเกษ วันนี้ ( 20 มี.ค.)
ศรีสะเกษ/สุรินทร์ - ลำห้วยสำราญไหลผ่านกลางเมืองศรีสะเกษแห้งขอด ต้องไปใช้น้ำดิบจากแม่น้ำมูลผลิตน้ำประปาเลี้ยงชาวศรีสะเกษ ขณะที่ จ.สุรินทร์แล้งขยายวงกว้าง แหล่งน้ำดิบผลิตประปาแห้งขาดแคลนน้ำแล้ว 76 แห่งใน 7 อำเภอ เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ

วันนี้ (20 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งได้ขยายพื้นที่ไปทั่วทุกอำเภอของ จ.ศรีสะเกษอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแสงแดดที่ร้อนจัดส่งผลให้น้ำในแหล่งน้ำตามธรรมชาติต่างๆ แห้งขอดอย่างรวดเร็ว

โดยเฉพาะลำห้วยสำราญจากเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ไหลผ่านกลางเมืองศรีสะเกษ ที่บริเวณสะพานขาว ชุมชนสะพานขาว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคและผลิตประปาที่สำคัญของจ.ศรีสะเกษ ขณะนี้ระดับน้ำได้แห้งขอดมานานกว่า 1 เดือนแล้ว บางช่วงลำน้ำกว้างเพียง 1 เมตรเท่านั้นสามารถเดินข้ามได้อย่างสบาย

นายชาญ ขาวพรม หัวหน้างาน 8 งานผลิต สำนักงานประปาส่วนภูมิภาค สาขาศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้การประปาส่วนภูมิภาค ศรีสะเกษ ได้ใช้น้ำดิบจากแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านเขต อ.เมืองศรีสะเกษบริเวณสะพานบ้านผักขะมาผลิตน้ำประปาในโรงกรองน้ำ ที่บ้านง้อหนองแสง ห่างจากโรงสูบน้ำสะพานบ้านผักขะประมาณ 6 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งแม่น้ำมูลแหล่งน้ำดิบสำคัญยังมีระดับน้ำสูงเนื่องจากมีการปิดประตูเขื่อนหัวนาที่บริเวณ อ.กันทรารมย์ เพื่อเก็บกักน้ำเอาไว้ทำให้สามารถสูบน้ำมาใช้ในการผลิตน้ำประปาให้ชาวศรีสะเกษใช้ในการอุปโภคบริโภคได้

“อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงประชาชนชาวศรีสะเกษขอให้ใช้น้ำประปาอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำประปาใช้ได้ตลอดหน้าแล้งปีนี้” นายชาญกล่าว

ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ขยายวงกว้างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะแหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน/ชุมชน หลายพื้นที่ประสบปัญหาแห้งขอด ชาวบ้านขาดแคลนน้ำประปาสำหรับอุปโภคบริโภค ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำรถบรรทุกน้ำเข้าไปแจกจ่ายช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน

สำหรับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่สำคัญในการอุปโภคบริโภค และด้านการเกษตร จำนวน 18 แห่งของ จ.สุรินทร์ ล่าสุดมีปริมาณน้ำกักเก็บรวมประมาณ 82 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็นร้อยละ 59 ของขนาดความจุ ในจำนวนนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บต่ำกว่าร้อยละ 50 จำนวน 8 แห่ง และส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาให้บริการประชาชน 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว อ่างเก็บน้ำหนองกา อ.รัตนบุรี และ อ่างเก็บน้ำบ้านเกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ

ขณะนี้หน่วยทหารได้เข้าไปทำการขุดคลองห้วยที่ตื้นเขิน พร้อมจัดทำโครงการวางท่อน้ำดิบจากแม่น้ำมูลส่งมาเติมที่อ่างเก็บน้ำหนองกา ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี เพื่อนำมาผลิตประปาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน

สำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทานมีหลายแห่งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและแหล่งน้ำดิบผลิตประปา โดยมีแหล่งน้ำดิบผลิตประปาประสบปัญหาปริมาณน้ำน้อยจำนวน 76 แห่ง ในพื้นที่ 7 อำเภอ จากทั้งจังหวัด 17 อำเภอ ได้แก่ อ.รัตนบุรี 16 แห่ง อ.จอมพระ 7 แห่ง อ.สำโรงทาบ 11 แห่ง อ.ปราสาท 4 แห่ง อ.ชุมพลบุรี 6 แห่ง อ.เมืองสุรินทร์ 17 แห่ง และ อ.สังขะ 10 แห่ง ซึ่งประชาชนมีความต้องการเครื่องสูบน้ำ รวมทั้งเจาะบ่อบาดาลเพิ่ม และขุดลอกแหล่งน้ำที่ตื้นเขิน เพื่อรองรับน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค

จ.สุรินทร์แล้งขยายวงกว้าง แหล่งน้ำดิบผลิตประปาหมู่บ้าน/ชุมชนประสบปัญหาขาดแคลนน้ำแล้วจำนวน  76 แห่งใน 7 อำเภอ

กำลังโหลดความคิดเห็น