ศรีสะเกษ/บุรีรัมย์ - ชาวบ้านชายแดน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้อย่างหนัก แม่เฒ่า 82 ปีขาดน้ำมานานกว่า 3 เดือน ต้องซื้อน้ำดื่มถังละ 10 บาท ขณะชลประทานบุรีรัมย์ปล่อยน้ำอ่างจระเข้มากเติมสระน้ำผลิตประปา 2 หมู่บ้านแห้งขอดไม่สามารถผลิตประปาบริการประชาชนกว่า 1,300 คนได้ แต่คาดใช้ได้ 1-2 เดือนแห้งอีกแน่
วันนี้ (7 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้หมู่บ้านต่างๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้อย่างหนัก เนื่องจากภาวะภัยแล้งได้แพร่ขยายพื้นที่อย่างรวดเร็ว
ที่บ้านเลขที่ 219 หมู่ 5 บ้านโนนแสนคำ ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนางกา วังศรีแก้ว อายุ 82 ปี ได้มีลูกหลานนำเอารถไถนาเดินตามบรรทุกน้ำมาเติมใส่โอ่งมังกรหน้าบ้านเพื่อให้นางกาได้มีน้ำใช้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้นางกาไม่มีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคมานานร่วมเดือนแล้ว
ขณะเดียวกัน รถดับเพลิงของ อบต.บึงมะลูได้นำเอาน้ำมาเติมใส่ในโอ่งน้ำ ซึ่งเป็นโอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่วางอยู่หน้าบ้านจนเต็ม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของนางกาให้มีน้ำใช้ไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
นางกา วังศรีแก้ว อายุ 82 ปี กล่าวว่า หมู่บ้านของตนขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้มานาน 3 เดือนแล้ว ต้องให้ลูกเขยนำเอารถไถนาเดินตามไปสูบเอาน้ำจากหมู่บ้านใกล้เคียงที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 5 กม.มาเติมใส่โอ่งไว้ให้ใช้
ส่วนน้ำดื่มนั้นต้องซื้อจากพ่อค้าขายน้ำที่นำมาขายให้ในราคาถังละ 10 บาท ซึ่งเป็นถังขนาดเล็กและใช้ดื่มได้ประมาณ 3 วัน ตนต้องซื้อน้ำดื่มอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่มีรายได้อะไรมาจุนเจือ เพราะภัยแล้งไม่สามารถทำการเกษตร และวันนี้โชคดีที่ อบต.บึงมะลู นำเอาน้ำมาเติมในโอ่งน้ำ ซึ่งพอจะใช้ได้ประมาณ 10 วัน
หลังจากน้ำหมดแล้วยังไม่ทราบว่าจะเอาน้ำจากที่ใดมาใช้ในการบริโภคได้อีกเพราะอายุมากแล้ว สุขภาพไม่แข็งแรง ขอวอนให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำเอาน้ำมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านอย่างต่อเนื่องด้วย
ทางด้าน นายบุญธรรม ประจันทร์ อายุ 49 ปี พนักงานขับรถน้ำ อบต.บึงมะลู กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายก อบต.บึงมะลูให้นำเอาน้ำไปแจกจ่ายแก่ชาวบ้านตามหมู่บ้านต่างๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.บึงมะลู ประมาณ 20 หมู่บ้าน โดยได้เริ่มแจกจ่ายน้ำมานานประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว ต้องวิ่งรถส่งน้ำวันละ 3-4 เที่ยว แต่ความต้องการน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคสูงมาก ซึ่งต่อไปอาจต้องใช้ช่วงเวลากลางคืนส่งน้ำให้กับชาวบ้านเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอในหน้าแล้งปีนี้
ทางด้านสถานการณ์ภัยแล้งที่ จ.บุรีรัมย์ยังคุกคามต่อเนื่อง ทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติและสระกลางหมู่บ้านหลายพื้นที่มีสภาพตื้นเขินแห้งขอด สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านหลายหมู่บ้านประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค
ขณะที่คณะกรรมการหมู่บ้าน บ้านตะโกราย ม.4 และบ้านซาด ม.3 ต.บ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากทางโครงการชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ให้เปิดประตูระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบหลักที่ใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชนและเขตเศรษฐกิจสำคัญในตัวเมืองบุรีรัมย์ไปเติมในสระน้ำกลางหมู่บ้านบ้านตะโกราย แหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปาทั้ง 2 หมู่บ้าน ที่มีผู้ใช้น้ำมากกว่า 300 ครัวเรือน ประชากรกว่า 1,300 คน หลังมีสภาพตื้นเขินจนไม่สามารถสูบขึ้นไปผลิตประปาได้
ชลประทานจังหวัดได้ปล่อยน้ำเติมสระเพื่อช่วยเหลือทั้ง 2 หมู่บ้านได้มีน้ำผลิตประปาเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้งนี้แล้ว
นางรำพึง ตาประโคน ผู้ใหญ่บ้านบ้านตะโกราย ม.4 กล่าวว่า จากภาวะภัยแล้งที่คุกคามในช่วงนี้ส่งผลให้ปริมาณน้ำในสระกลางหมู่บ้านที่ใช้สำหรับผลิตประปาของทั้ง 2 หมู่บ้านมีสภาพตื้นเขินจนไม่สามารถสูบขึ้นไปผลิตประปาได้ ทางคณะกรรมการหมู่บ้านจึงต้องทำเรื่องเสนอขอความช่วยเหลือไปยังชลประทานจังหวัดให้ปล่อยน้ำมาเติมสระกลางหมู่บ้านดังกล่าว
ล่าสุดทางชลประทานได้ปล่อยน้ำเข้ามาเติมสระแล้ว แต่สูงจากระดับเดิมเพียงประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งคาดว่าจะใช้ผลิตประปาได้เพียง 1-2 เดือนเท่านั้น หากฝนมาช้ากว่าปกติจะไม่เพียงพอผลิตประปา ซึ่งทางผู้นำชุมชนอาจต้องขอความช่วยเหลือทางชลประทานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกเพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวบ้าน