จับแล้วแท็กซี่โจร! ชิงทรัพย์-ซ้อมนักท่องเที่ยวลาว ยังแถถูกคู่กรณีฉกโทรศัพท์ก่อน

อุบลราชธานี- ตร.โชว์จับแท็กซี่โจรซ้อม ชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวลาว หลังถูกจับได้อ้างถูกนักท่องเที่ยวฉกโทรศัพท์ จึงไล่ตามไปเอาคืน และเอาแค่เงินค่าโดยสารตามที่ตกลงไว้ แต่ตำรวจไม่เชื่อ เร่งตามจับเพื่อนที่หลบหนีมาดำเนินต่อไปแล้ว

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (17 มี.ค.) พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ แสงจันทร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี นำตัว นายอธิวัฒน์ ถนอมสุข อายุ 25 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 41/1 บ้านหนองปลาปาก หมู่ 11 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 72/2559 ลงวันที่ 16 มี.ค.2559

ฐานร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด หรือการรพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ กล่าวถึงการจับกุม นายอธิวัฒน์ สืบเนื่องจากมีการแชร์รูปภาพ และข้อความในโซเชียลมีกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำในสถานีขนส่งผู้โดยสารเฉลิมพระเกียรติ ซ้อม และชิงทรัพย์จากนักท่องเที่ยวชาวลาวเป็นเงินสด จำนวน 7,000 บาท เหตุเกิดช่วงเช้ามืดวันที่ 14 มี.ค.

หลังทราบเรื่องจึงประสานข้อมูลจนทราบชื่อผู้เสียหายคือ ท้าวพอนสัก ไซมนตี อายุ 29 ปี ราษฎรบ้านห้วยเต่า เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว และส่งเจ้าหน้าที่ไปรับตัวท้าวพอนสัก จากบ้านในลาวให้มาแจ้งความเป็นเจ้าทุกข์เมื่อเย็นวันที่ 15 มี.ค. เพื่อใช้เป็นหลักฐานตามจับตัวกลุ่มแท็กซี่ที่ก่อเหตุ

ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ได้อนุมัติออกหมายจับตัว นายอธิวัฒน์ ตามที่ท้าวพอนสัก เจ้าทุกข์ได้ดูรูป และชี้เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ร่วมกันทำร้าย และชิงเงินสดของตนไป

ก่อนเกิดเหตุ ท้าวพอนสัก กล่าวว่า เดินทางกลับจากไปเยี่ยมญาติที่กรุงเทพฯ ระหว่างมาลงรถโดยสารที่สถานีรถโดยสารได้พบกับกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำ ชักชวนให้ขึ้นรถ เพื่อเดินทางไปยังด่านพรมแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก เพื่อกลับภูมิลำเนา โดยตกลงค่ารถ 1,500 บาท แต่ระหว่างทางคนขับแท็กซี่ และเพื่อนได้ร่วมกันทำร้าย และชิงเงินของตนไป

จากการสอบสวน นายอธิวัฒน์ ผู้ต้องหาให้การว่า วันเกิดเหตุตน และนายอ้นเพื่อนที่ยังหลบหนี ได้รับการว่าจ้างจากท้าวพอนสัก ให้ขับรถไปส่งที่ด่านพรมแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร ราคา 1,500 บาท และขอเบิกค่าน้ำมันก่อน 500 บาท แต่ท้าวพอนสัก ไม่ให้จึงเกิดปากเสียงกันขึ้น ตนจึงยื่นโทรศัพท์ให้คุยกับเจ้าของรถ แต่ท้าวพอนสัก กลับเปิดประตูลงจากรถวิ่งหนีไปพร้อมกับโทรศัพท์

นายอธิวัฒน์ และนายอ้น ได้วิ่งไล่ตามไปแล้วเกิดชกต่อยกันขึ้น แต่ได้นำตัวท้าวพอนสัก ไปส่งที่ด่านช่องเม็ก และไม่ได้ชิงทรัพย์เงินสดของท้าวพอนสัก ไปแต่อย่างใด เพราะเอาเพียงค่ารถตามราคาที่ตกลงกันไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อ และได้ควบคุมไว้ พร้อมจะได้ติดตามจับตัวนายอ้น ที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจะประสานไปยังสำนักงานขนส่งขอให้ยกเลิกการอนุญาตให้แท็กซี่ป้ายดำเข้าไปรับผู้โดยสารในสถานีขนส่ง เพราะปัจจุบันมีรถแท็กซี่ป้ายเหลืองให้บริการอยู่แล้ว เพื่อใช้แก้ปัญหาอาชญากรรมต่อนักท่องเที่ยวไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกด้วย