วิกฤตหนัก! เขื่อนอุบลรัตน์เตรียมใช้น้ำก้นอ่างต้น เม.ย.

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวายเผยยังสามารถระบายน้ำผ่านคลองฝั่งซ้ายและฝั่งขวา วันละ 300,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง อ.น้ำพอง และ อ.ซำสูงมีน้ำอุปโภคและบริโภค ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์เหลือน้ำก้นอ่างที่นำมาใช้ต้น เม.ย.นี้ได้แค่ร้อยละ 1 ของความจุอ่างเท่านั้น ย้ำต้องใช้อย่างประหยัด

นายทรงวุฒิ กิจวราวุฒิ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย สำนักงานชลประทานที่ 6 จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเขื่อนอุบลรัตน์ได้เพิ่มการระบายน้ำจากเดิมวันละ 500,000 ลูกบาศก์เมตร เพิ่มเป็นวันละ 800,000 ลูกบาศก์เมตร

ทำให้ทางโครงการฯ ต้องวางแผนระบายน้ำผ่านคลองชลประทานฝั่งซ้ายและฝั่งขวา วันละ 300,000 ลูกบาศก์เมตร โดยมีชาวบ้านกว่า 40 หมู่บ้านในพื้นที่อำเภอน้ำพอง อำเภอเมือง อำเภอซำสูง จ.ขอนแก่น ยังมีน้ำใช้เพื่ออุปโภคและบริโภค

ส่วนการวางแผนการใช้น้ำปริมาณน้ำสำรองในสภาวะฉุกเฉิน หรือระดับน้ำนอนก้นอ่างของเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งจะมีการนำน้ำมาใช้ราว 180 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้งนี้

แม้ว่าเมื่อปี 2536 เคยมีการนำน้ำสำรองในภาวะฉุกเฉินหรือน้ำก้นอ่างมาใช้ แต่ในช่วงนั้นยังไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมริมลำน้ำพองเท่าปัจจุบัน ทำให้การใช้น้ำก้นอ่างที่คาดว่าจะเริ่มใช้ในเดือนเมษายนจะต้องมีการวางแผนการใช้น้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และขอให้ประชาชนมั่นใจ

โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองขอนแก่นและสองข้างฝั่งลำน้ำพองจะยังมีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค ตลอดจนนำไปผลิตน้ำประปาแน่นอน แต่สิ่งที่สำคัญคือประชาชนต้องช่วยกันประหยัดน้ำ และงดการนำน้ำไปใช้ในการเกษตรเพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้งปีนี้จนกว่าฝนใหม่จะมา

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า แห้งแล้งปีนี้ถือว่ามีปัญหารุนแรงที่สุดเพราะฝนทิ้งช่วงนานมาก ส่งผลให้น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเหลือน้ำในเขื่อนเพียง 614 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของความจุ

แต่ปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงมีเพียง 33 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 1 ของความจุ ทางเขื่อนอุบลรัตน์จึงต้องระบายน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น