“จันทบุรี” เริ่มวิกฤตภัยแล้ง หลังปริมาณน้ำในเขื่อนพลวงลดต่ำลง

จันทบุรี - ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เริ่มวิกฤตหนัก หลังปริมาณน้ำในเขื่อนพลวงลดปริมาณต่ำลง โดยเห็นโขดทรายโผล่กลางเขื่อน ด้านจังหวัดเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์

วันนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจปริมาณน้ำในเขื่อน 4 จุดหลัก ของจังหวัดจันทบุรี พบว่า มีการกักเก็บน้ำที่สามารถรองรับปัญหาภัยแล้งของจังหวัดจันทบุรีได้ โดยมีเพียงเขื่อนพลวง ที่มีปริมาณน้ำเพียง 27,998 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุอ่างสูงสุด 80 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 35.00 ของความจุเขื่อน สาเหตุมาจากเขื่อนได้มีการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนเพื่อจะดำเนินการซ่อมแซมประตูระบายน้ำของเขื่อน ซึ่งคาดการว่าปริมาณน้ำที่เหลืออยู่จะเพียงพอต่อพื้นที่ที่อยู่ในเขตชลประทาน ในการใช้เพื่อการเกษตรในพื้นที่อำเภอเขาคิชฌกูฏ อำเภอมะขาม อำเภอขลุง ได้อย่างเพียงพอ

โดยหากไม่เพียงพอทางเขื่อนจะดึงน้ำจากเขื่อนสะพานหิน มาช่วยเสริมเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบในช่วงภัยแล้งต่อไป ส่วนปริมาณน้ำเขื่อนคีรีธาร มีปริมาณน้ำ 62,659 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 76 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 82.44 ของความจุเขื่อน อ่างเก็บน้ำสันทราย มีปริมาณน้ำ 8,917 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 74.31 อ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ ปริมาณน้ำ 62,757 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 70.51 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 89.00

นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า น้ำในระบบชลประทานในขณะนี้ยังสามารถคุมสถานการณ์ได้เมื่อดูจากน้ำในเขื่อนหลัก คือ เขื่อนคิรีธาร อ่างเก็บน้ำสันทราย และอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ น้ำอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเขตชลประทานในหน้าแล้งนี้ได้ ถือว่าปริมาณน้ำมากกว่าปีที่ผ่านมา ยกเว้นเขื่อนพลวงที่เดียวที่ระดับน้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จากการที่ประสานในพื้นที่เขื่อนพลวงเอง โดยเฉพาะอำเภอเขาคิชฌกูฏ สามารถปล่อยน้ำเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรได้ ยกเว้นในพื้นที่ที่จะลงมาในพื้นที่เขตอำเภอมะขาม ตรงนี้จะต้องใช้วิธีการสูบขึ้นมาซึ่งต้องใช้ไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มผู้ใช้น้ำได้มีการระดมทุน ระดมการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังแล้ว

นอกจากนั้น ทางจังหวัดก็จะใช้เงินทดรองราชการช่วย แต่จะต้องมีการประกาศภัยแล้งก่อน สำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทาน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก ขณะนี้ได้มีการกั้นฝายในทุกจุดของพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นคลองเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้อย่างเต็มที่ ส่วนสถานการณ์ ณ ปัจจุบันนี้ที่น่าเป็นห่วงก็มีอยู่ที่ตำบลบางชัน อำเภอขลุง ที่เป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเล จำเป็นต้องมีปัญหาน้ำกินน้ำใช้ ขณะนี้ได้มีการประสานเบื้องต้นส่งรถบรรทุกน้ำให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบรรทุกน้ำไปช่วยแจกให้แก่ประชาชน และพื้นที่อำเภอสอยดาว ก็จะมีเทศบาลตำบลทรายขาว คอยดูแล แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเก็บกักน้ำ และใช้น้ำอย่างประหยัด และมีการบริหารจัดการในพื้นที่ โดยเฉพาะการใช้น้ำร่วมกันระหว่างพี่น้องชาวเกษตร กับน้ำเพื่อทำการประปาเพื่ออุปโภคบริโภคได้ประสานงานกันอย่างเต็มที่

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ก็ได้มีการออกตรวจตราเพื่อประเมินสถานการณ์ หากถึงขั้นที่จำเป็นต้องประกาศภัยแล้งก็จะมีการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าจะไม่ให้พี่น้องขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้เป็นอันขาด โดยเฉพาะน้ำเพื่อการเกษตรก็จะมีการช่วยเหลืออย่างสุดกำลังต่อไป