ศูนย์ข่าวศรีราชา - ระทึก!! พบถังน้ำยาแอร์ต่อวงจรสายไฟต้องสงสัยวางอยู่ในร้านขายส้มตำ ย่านพัทยากลาง คาดพวกขี้เมาที่ชอบมานั่งกินเหล้าทำขู่เจ้าของร้าน หรือไม่ก็สร้างสถานการณ์ป่วนเมือง
วันนี้ (12 มี.ค.) ร.ต.ท.วัฒนา ประดิษฐ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งพบถังบรรจุน้ำยาแอร์ต้องสงสัยคล้ายระเบิดวางอยู่ในร้านขายส้มตำไก่ย่าง ข้างลิตเติ้ลฮิลล์ อพาร์ตเมนต์ ในซอยเพนียดช้าง 8 ย่านพัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายส้มตำ และอาหารตามสั่งไม่มีชื่อ และยังไม่เปิดให้บริการ พบนางมูยิ่น ศรีมันตะ อายุ 40 ปี ชาว จ.ยโสธร เจ้าของร้าน ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ พร้อมกับชี้ให้ดูบริเวณโต๊ะวางของในร้านซึ่งมีถังบรรจุน้ำยาแอร์ขนาด 13.6 กก. วางอยู่ในสภาพมีสายไฟระโยงระยางเชื่อมต่อจากหัวถังมายังวัตถุอะลูมิเนียมทรงกลมขนาดเท่ากระป๋องน้ำอัดลม ซึ่งเป็นอุปกรณ์วัดน้ำยาแอร์ที่ใช้ติดในรถยนต์ โดยมีสกอตเทป และเชือกสีดำพันติดกันไว้ และมีการพ่นสีสเปรย์ทั้งสีดำ-ขาว-แดงทับสีเดิมของถังซึ่งปกติเป็นสีฟ้าอ่อน โดยมีชาวบ้านในละแวกดังกล่าวมามุงดูเหตุการณ์จำนวนหนึ่ง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกห่างในรัศมี 50 เมตร เพราะยังไม่มั่นใจว่าเป็นวัตถุระเบิดจริงหรือไม่ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกถังลงมาวางที่พื้นแล้วนำยางรถยนต์มาครอบไว้ ก่อนทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า วัตถุดังกล่าวไม่มีวงจรไฟฟ้า และชนวนฝักแคที่สามารถทำให้เกิดการระเบิดขึ้นมาได้แต่อย่างใด
สอบปากคำ นางมูยิ่น ให้การว่า ปกติตนจะเปิดร้านตอนเช้า และปิดในช่วงเย็นเป็นประจำทุกวัน แต่วันนี้รู้สึกเหนื่อยจึงหยุดขาย ซึ่งหลังจากปิดร้านแล้วในช่วงกลางคืนมักจะมีคนในละแวกนี้มาจับกลุ่มนั่งดื่มสุราอยู่ที่โต๊ะรับแขกของร้านตนเป็นประจำ กระทั่งวันนี้ตนออกมาดูของที่ร้านต้องถึงกับตกใจเมื่อเห็นถังน้ำยาแอร์วางอยู่ในร้านมีการต่อสายไฟคล้ายวัตถุระเบิดที่เคยเห็นในข่าวทาง 3 จังหวัดชายแดนใต้ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ที่ประกอบถังน้ำยาแอร์ และวัตถุดังกล่าวขึ้นมาน่าจะเป็นพวกขี้เมาที่เคยมานั่งดื่มสุราที่ร้านของนางมูยิ่น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่าง และมีความรู้เรื่องแอร์เป็นอย่างดี ส่วนสาเหตุอาจจะไม่พอใจเจ้าของร้านจึงทำขึ้นเพื่อข่มขู่ หรือไม่ก็เกิดความคิดพิเรนทร์ทำขึ้นเพื่อสร้างสถานการณ์ป่วนบ้านเมืองในยุค คสช. อย่างไรก็ตาม ภายหลังจะได้ประสานตำรวจฝ่ายสืบสวนออกแกะรอยหาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อล่ามือป่วนรายนี้มาสอบสวน และดำเนินคดีต่อไป