เพชรบูรณ์ - คณะทำงานแก้ไขปัญหา “ภูทับเบิก” เร่งปรับ (ร่าง) แผนแม่บทการใช้ที่ดินให้เสร็จปลายเดือนนี้-ต้นเดือนหน้า ก่อนเสนอ ครม.อนุมัติ อธิบดีกรมป่าไม้ยันรีสอร์ตทับเบิกเป็นของม้งท้องถิ่นไม่เกิน 30 ราย ที่เหลือเป็นของนายทุน ชาวเขานอกพื้นที่ทั้งสิ้น ล่าสุด จับดำเนินคดีแล้ว 38 ราย ศาลสั่งพ้นพื้นที่ 18 แห่ง
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะทำงานแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก 3 ฝ่าย หรือ 3 กระทรวง ตามแอ็กชันแพลน หรือปฏิบัติการภูทับเบิก 3-8-8 ที่ทางกรมป่าไม้ กรมพัฒนาสังคมฯ และจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ทำข้อตกลงร่วมกันในการวางแผน และกำหนดทิศทางเพื่อจัดระเบียบภูทับเบิก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้มีความยั่งยืน ได้ประชุมหารือกันที่กองอำนวยการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก (กอภ.) ในศูนย์พัฒนาชาวเขาบ้านทับเบิก หมู่ 14 ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
โดยมี นายชลธิศ สุรัสสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ นายณรงค์ คงคำ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก และนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าร่วมหารือเพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากทั้ง 3 หน่วยงานหลักได้ร่วมกันปฏิบัติการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิกมาได้กว่า 4 เดือน
ที่ประชุมได้มีการพิจารณากรอบแนวทางการบริหารจัดการใช้พื้นที่ภูทับเบิก ซึ่งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เป็นผู้จัดทำร่างแผนแม่บท และนำเสนอเพื่อรับฟังข้อคิดเห็น และเสนอแนะให้เหมาะสมต่อบริบทพื้นที่ และข้อมูลซึ่งเป็นปัจจุบันอย่างรอบด้าน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดแผนการขับเคลื่อนระยะต่อไป โดยให้กรมพัฒนาสังคมฯ ขอใช้ประโยชน์ที่ดินภูทับเบิกจากกรมป่าไม้ เร่งรัดปรับ (ร่าง) แผนแม่บทการบริหารจัดการการใช้ที่ดินบริเวณภูทับเบิก และรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายในปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน 2559 ก่อนที่จะนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน กรมป่าไม้ก็จะเร่งรัดการดูแลคดีความ โดยทำงานร่วมกับตำรวจในการจับกุมดำเนินคดี การติดตามคดีความ และการบังคับคดีตามคำสั่งศาล
ทั้งนี้ ก่อนเปิดประชุม ได้มีผู้ประกอบการรีสอร์ตบนภูทับเบิก จำนวน 16 ราย ที่ถูกศาลสั่งบังคับคดีให้ออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน มาร้องให้ชะลอการบังคับให้ออกจากพื้นที่ไปก่อน และถ้าจะให้ออกจากพื้นที่จริงก็ต้องให้ออกทั้งหมด เพราะรีสอร์ตบนภูทับเบิกที่เป็นของชาวม้งจริงมีไม่เกิน 30 ราย ส่วนที่เหลือล้วนเป็นคนนอกพื้นที่ และใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์เหมือนกันทั้งหมด
นายชลธิศ สุรัสสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า รีสอร์ตภูทับเบิกมีทั้งหมด 90 กว่าแห่ง พบว่ามีประมาณ 30 แห่ง ที่เป็นของชาวเขาที่อยู่เดิมจริง นอกนั้นเป็นของนายทุน และชาวเขาที่อยู่นอกพื้นที่เกือบทั้งหมด ซึ่งกรมป่าไม้จะต้องทำการจับกุมดำเนินคดี
โดยที่ผ่านมา ป่าไม้ได้จับกุมดำเนินคดีรีสอร์ตไปแล้ว จำนวน 38 ราย โดย 18 ราย ศาลได้ตัดสินให้จำเลย และบริวารออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน ส่วนรีสอร์ตรายอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ หรือทำผิดเงื่อนไขหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ใช่เจ้าของเดิมเจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการจับกุมตามกฎหมายต่อไป
