มหาสารคาม - ตรวจพื้นที่เกิดเหตุบัสอุดรฯ-ร้อยเอ็ดคว่ำ เสียชีวิต 2 ราย เผยสาเหตุไม่เกี่ยวระบบเบรกเพราะใช้งานได้ปกติ ชี้คนขับประมาท ซ้ำหลังเกิดเหตุหลบหนี เตรียมออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาหากยังเฉยออกหมายจับ
จากกรณีรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายอุดรธานี-ขอนแก่น-ร้อยเอ็ด เสียหลักพลิกคว่ำบนถนนสายขอนแก่น-เชียงยืน ช่วงรอยต่อบ้านเข็ง-บ้านหนองสระพัง ต.ขามเฒ่า อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นพระสงฆ์ และหญิงซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 5 เดือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 26 ราย
ล่าสุด คณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวนอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดมหาสารคาม ประกอบด้วย ขนส่งจังหวัด สาธารณสุข แขวงการทางมหาสารคาม บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัย เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดมหาสารคาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ และตรวจสอบรถบัสคันเกิดเหตุ เพื่อนำมาประกอบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง พบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของบริษัท ขอนแก่นชนะชัยขนส่ง จำกัด ตรวจสภาพครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 58 ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น
นายกิตติทัต สุตธรรม ขนส่งจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันวิเคราะห์องค์ประกอบที่จะเป็นปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ทั้งคนขับ สภาพรถ และสภาพถนน จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า พื้นถนนเป็นโค้งหักศอก ค่อนข้างอันตราย มีร่องรอยการเกิดอุบัติหลายครั้ง เครื่องหมายจราจรบางอย่างก็ไม่มี หรือไม่ชัดเจน เช่นเส้นทึบห้ามแซง เส้นประแบ่งเลนจราจรก็เลือนราง ถนนมีลักษณะเป็นร่องล้อ เนื่องจากผ่านการใช้งานมานาน พื้นถนนค่อนข้างเรียบลื่นไม่มีความหยาบ รถจะลื่นไถลได้ง่ายโดยเฉพาะฤดูฝน
การตรวจสอบพบว่ารถบัสโดยสารเสียหลักมาตั้งแต่ช่วงพ้นโค้ง ก่อนจะปีนขึ้นเกาะกลางถนนและเสียหลักพลิกตะแคงลงข้างทางทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
โดยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าควรมีลูกระนาดเตือนผู้ขับขี่ 3 จุด ให้ผู้ขับขี่ชะรอความเร็วหรือเพิ่มความระมัดระวัง ส่วนการแก้ปัญหาแบบยั่งยืนต้องปรับพื้นสภาพผิวถนนซึ่งเป็นโครงการใหญ่
สำหรับเส้นทางสายนี้มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก อาจจะไม่มีการคาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งต้องกวดขันพนักงานประจำรถให้กำชับผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเส้นทางไม่ว่าจะเดินทางในระยะสั้นหรือระยะยาว
ส่วนประเด็นที่มีผู้โดยสารบอกว่าได้ยินคนขับรถบอกว่าเบรกแตกต้องไปตรวจสอบ เพราะเวลาเกิดเหตุคนขับมักจะบอกว่าเบรกแตกซึ่งไปตรวจพิสูจน์กัน ซึ่งเบรกแตกก็ต้องดูสาเหตุด้วย เช่น ขับมาเร็วแล้วเบรกกะทันหันเบรกก็อาจจะแตกได้ โดยปกติรถโดยสารจะมีการตรวจสภาพทุกครึ่งปี ตัวรถจะต้องมีความมั่นคงแข็งแรงมีความปลอดภัยอยู่แล้วด้วย
ส่วนการตรวจสอบสภาพรถคันเกิดเหตุพบว่า สภาพรถโดยรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ยางล้อรถยังสามารถใช้งานได้ สภาพบนรถที่เบาะผู้โดยสาร มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง สามารถใช้งานได้ ส่วนการตรวจสอบเบรกรถ ที่ก่อนหน้านี้มีการกล่าวอ้างว่าเบรกแตกนั้น ปรากฏว่า เบรกรถยังสามารถใช้งานได้เป็นปกติ เดังนั้นสาเหตุไม่ใช่เรื่องของระบบเบรก ซึ่งทางคณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวนอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดมหาสารคามจะได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดพร้อมนำมาวิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ สุขา ในฐานะคณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวนอุบัติเหตุจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดจากความประมาทของคนขับรถ คือ นายกล้าณรงค์ เรืองศรี อายุ 54 ปี ราษฎร ชต.แกลง อ.แกลง จ.ระยอง โดยคนขับใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ ช่วงเกิดเหตุเป็นกลางวันสภาพถนนไม่เปียกชื้น น้ำหนักของสาเหตุหลักจึงให้น้ำหนักไปทางคนขับซึ่งควรต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากเป็นรถโดยสารสาธารณะ ขณะนี้นายกล้าณรงค์กำลังอยู่ระหว่างหลบหนี โดยตั้งแต่เกิดเหตุคนขับรถยังไม่ติดต่อเพื่อเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ส่วนการวิเคราะห์ถนนบริเวณจุดเกิดเหตุที่มีลักษณะเป็นคลื่นและเป็นช่วงทางโค้ง จะได้ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำการวางลูกระนาดเป็นระยะ เพื่อเตือนผู้ขับขี่ให้ใช้ความระมัดระวังส่วนการซ่อมแซมถนนนั้นเป็นเรื่องในระยะยาว
ส่วนของการดำเนินคดีกับคนขับรถนั้น ร้อยเวรเจ้าของคดีจะออกหมายเรียกนายกล้าณรงค์ให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่หากไม่มาจะออกหมายจับต่อไป