ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ประปาภูมิภาคนครราชสีมาวิกฤต! อ่างน้ำดิบเหลือผลิตประปาอีกแค่ 15 วัน ประชาชน 2 อำเภอกว่า 2.7 หมื่นครัวเรือนจ่อเดือดร้อนหนักขาดน้ำอุปโภคบริโภค เหตุแอ่งแม่มูลแห้ง-เขื่อนปล่อยน้ำไม่ถึง ผู้ว่าฯ โคราชเต้นรุดตรวจหาทางแก้ปัญหา เผยผันน้ำมูลค้างฝายต่ออายุอีก 2 สัปดาห์ พร้อมขอซื้อน้ำจากเทศบาลนครฯ สูบจาก “เขื่อนลำแชะ” ส่งมาเติมเต็มความจุให้พ้นวิกฤตแล้งไปได้
วันนี้ (10 มี.ค.) ที่อ่างเก็บน้ำดิบท่าช้าง ของการประปาส่วนภูมิภาค สาขา นครราชสีมา อยู่ติดแม่น้ำมูล บ้านโนนไม้แดง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ นายนภดล พุ่มกันภัย ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา นายพีรพล เอี่ยมสะอาด ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำ รักษาราชการแทนทรัพยากรน้ำภาค 5 และเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารช่าง 202 (ช.พัน.202) ค่ายสุรธรรมพิทัพษ์ กองทัพภาคที่ 2 ได้ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำดิบการประปาส่วนภูมิภาคสาขานครราชสีมาแห้งขอด ล่าสุดเหลือปริมาณน้ำดิบผลิตประปาให้บริการประชาชนได้อีกเพียง 15 วันเท่านั้น
นายนภดล พุ่มกันภัย ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขานครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำดิบท่าช้างของการประปาส่วนภูมิภาค สาขา นครราชสีมา เหลือแค่ 200,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากความจุกักเก็บทั้งหมด 2,800,000 ลบ.ม. ใช้งานได้แค่ 15 วันเท่านั้น จากนั้นจะไม่สามารถสูบน้ำมาผลิตประปาได้อีก
จากที่ต้องผลิตน้ำประปาส่งให้บริการประชาชนในเขตพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติบางส่วน รวม 18 ตำบล รวมผู้ใช้น้ำกว่า 27,000 ครัวเรือน ใช้น้ำดิบผลิตประปาวันละกว่า 25,000 ลบ.ม. หรือเดือนละประมาณ 500,000 ลบ.ม. ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้พยายามสูบน้ำจากแม่น้ำมูลเข้ามาเติมอ่างน้ำดิบท่าช้างโดยตลอด แต่เนื่องจากภาวะภัยแล้งทำให้ลำมูลแห้งขอด และน้ำจากเขื่อนต่างๆ ปล่อยมาไม่ถึง จึงไม่มีน้ำให้สูบเพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว
นายนภดลกล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาเฉพาะขณะนี้ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการผันน้ำจากลำน้ำมูล ซึ่งอยู่ใต้จุดสูบน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคฯ ลงไป ก่อนถึงฝายบ้านส้ม ต.ช้างทอง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา กลับขึ้นมาใช้ในการผลิตประปาเป็นการชั่วคราวไปก่อน เพราะจากการสำรวจพบว่ายังมีน้ำอยู่ก้อนหนึ่งที่กักไว้บริเวณฝายบ้านส้มดังกล่าว ระยะทางประมาณ 5-6 กิโลเมตร (กม.) โดยคาดว่าจะได้น้ำมาใช้ผลิตประปาได้อีกประมาณ 150,000 ลบ.ม. สามารถยืดระยะเวลาต่อได้อีกประมาณ 2 สัปดาห์ พร้อมกับลดแรงดันปล่อยน้ำประปาให้ประชาชนในช่วงกลางคืน ซึ่งได้ดำเนินการมานานแล้วตั้งแต่เข้าสู่ฤดูแล้งปีนี้ เพื่อยืดระยะเวลาการใช้น้ำดิบให้ได้มากขึ้น
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวในปีนี้นั้น ได้ประสานขอซื้อน้ำดิบจากการประปาเทศบาลนครนครราชสีมาที่สูบน้ำจากเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มาเติมอ่างน้ำดิบท่าช้างให้เติมความจุ ซึ่งจะสามารถใช้ผลิตประปาได้นานประมาณ 3 เดือนไปจนถึงหน้าฝนปีนี้ โดยเรื่องนี้ได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาทราบ และประสานการช่วยเหลือแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะ หากไม่มีข้อขัดข้องใดๆ ก็จะสามารถแก้ปัญหาให้ผ่านพ้นวิกฤตแล้งปีนี้ไปได้
ด้าน นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ครั้งนี้เกิดจากภาวะความแห้งแล้ง น้ำในลำน้ำมูลมีน้อย ฉะนั้นเพื่อเร่งดำเนินการก่อนเกิดวิกฤตจะมีการผันน้ำในลำน้ำมูลช่วงผ่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งอยู่ต่ำกว่าจุดสูบน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคฯ นำกลับขึ้นไปใช้เพื่อบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
โดยตนจะลงไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ใช้น้ำจากจุดที่การประปาส่วนภูมิภาคฯ จะดำเนินการสูบกลับขึ้นมา เนื่องจากมีประชาชนใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำดังกล่าวประมาณ 500 ครัวเรือน ซึ่งต้องไปทำความเข้าใจว่าทางเขื่อนลำแชะจะปล่อยน้ำลงมาทดแทนให้ คาดว่าชาวบ้านน่าจะเข้าใจและไม่มีปัญหา