สุโขทัย/นครสวรรค์ - เกษตรกรชาวนาปากน้ำโพ รวมทั้งชาวสวนกล้วยตานีสวรรคโลกน้ำตาตก เจอแล้งคุกคามหนักสุดรอบ 20 ปี ต้นข้าวแห้งตายคานา-ต้นกล้วยตายคาสวน ไม่ออกยอดให้ตัดใบตองขาย
นายมนตรี พร้อมวงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า ภัยแล้งในปีนี้ทำให้มีต้นกล้วยล้มตายแล้วประมาณ 1,500 ไร่ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่สวนกล้วยได้รับความเสียหายหนักที่สุดจนใบตองไม่สามารถออกยอดได้ และล้มตายจำนวนมาก ถือเป็นภัยมหันต์ในปีนี้
ขณะที่น้ำในแม่น้ำยมก็เริ่มแห้งมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2559 ถึงปัจจุบันเหลือน้ำหล่อเลี้ยงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จนทำให้มองเห็นพื้นทราย และคิดว่าภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ชาวสวนกล้วยตานีทั้ง 9 หมู่บ้านที่ยังชีพด้วยการตัดใบตองขายคงสิ้นหวัง เพราะคงไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงพืชสวนได้อีกต่อไป
ทั้งนี้ กล้วยตานีเป็นพืชเศรษฐกิจของ ต.คลองกระจง เกษตรกรมีรายได้จากการตัดใบตองขายเดือนละกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ปัญหาภัยแล้งปีนี้ส่งผลกระทบรุนแรงหนักสุดในรอบ 20 ปี อย่างไรก็ตาม อบต.คลองกระจงได้เตรียมหาแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรที่เดือดร้อนในครั้งนี้แล้ว
ขณะที่ชาวนา หมู่ 2 ต.วังมหากร อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ที่มีแปลงนาทั้งสิ้น 42,000 กว่าไร่ ก็ต้องปล่อยให้ต้นข้าวที่ปลูกไว้เหี่ยวเฉา แห้งตายเป็นจำนวนรวมกว่าพันไร่ หลังน้ำในคลองสาธารณะที่เชื่อมต่อกับบึงบอระเพ็ด และบ่อน้ำที่กักเก็บไว้ในพื้นที่แห้งขอดจนไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาทำการเกษตรได้
นายประทวน ป้อมยุคล ชาวนาในพื้นที่ บอกว่า แต่เดิมชาวนาทุกคนใช้น้ำจากคลองสาธารณะที่เชื่อมต่อกับบึงบอระเพ็ด คาดว่าจะมีน้ำเพียงพอในการทำนา จึงได้เสี่ยงลงมือปลูกข้าวเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 58 ที่ผ่านมากันเป็นจำนวนมาก แต่ต้องมาประสบกับปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ไม่มีแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการทำนามานานกว่า 2 เดือนแล้ว ทำให้ต้นข้าวขาดน้ำ แห้งตาย สร้างความเสียหายและขาดทุนให้อย่างมาก
“คงต้องทิ้งนาข้าวทั้งหมดให้แห้งตาย รอปลูกใหม่อีกครั้งในช่วงที่เข้าหน้าฝน หรือช่วงที่มีน้ำมากเท่านั้น”