อุดรธานี - รวบแล้วหนุ่มร้อยเอ็ดฆ่าเมียแล้วเผาอำพรางทิ้งบ่อขยะเทศบาลนครอุดรธานี ขณะเดินอยู่ข้างทางรถไฟ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา หลังจากเดินด้วยเท้าเพื่อหลบตำรวจมาจาก ป.ปากช่อง อ้างรักเมียมาก แต่ไม่ยอมบอกสาเหตุที่ต้องฆ่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่หน้าสถานีตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พีรพงษ์ วงศ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.1.ภ.4 พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนภาค 4 และ สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายปรีชา หรือเหว่ มงคลชัย อายุ 40 ปี ตามหมายศาลจังหวัดอุดรธานีที่ เลขที่ 006/2559 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2559 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุการณ์ตาย
เหตุเกิดเมื่อเวลา 06.40 น. วันที่ 26 ก.พ.2559 ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพผู้หญิงถูกฆ่าและนำมาเผาทิ้งอยู่ในบริเวณบ่อเก็บขยะมูลฝอยของเทศบาลนครอุดรธานี บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.สุชาดา ลุนชัยภา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 535 ม.1 บ้านหนองบัว 7 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี โดยผู้ต้องสงสัยคือ นายปรีชา หรือเหว่ มงคลชัย สามีของผู้ตายเอง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนทั้งของภูธรภาค 4 โดย พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.ภ.4 ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี โดย พ.ต.อ.วิธ มุทธสิน ผกก.ภ.จว.อุดรฯ และของ สภ.เมืองอุดรธานี โดย พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ร่วมกันติดตามจับกุมตัวนายปรีชา ผู้ต้องสงสัยตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งจังหวัดชลบุรี สระบุรี กรุงเทพฯ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายปรีชา ได้ใช้วิธีเดินทางโดยรถไฟสายอีสานด้วยการขึ้นระหว่างทางที่ อ.ปากช่อง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แยกกันออกติดตามในพื้นที่ตามเส้นทางรถไฟผ่าน จนกระทั่งเวลา 15.30 น. วันที่ 6 มี.ค.2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายปรีชา ได้ที่บริเวณใกล้เคียงสถานบ้านไร่ ต.โนนวังทอง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ขณะที่นายปรีชา กำลังเดินอยู่ในป่าข้างทางรถไฟ จึงนำตัวมายังจังหวัดอุดรธานีเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
นายปรีชา ให้การต่อ พล.ต.ต.พีรพงษ์ วงศ์สมาน ผบก.ภ.จ.ว.อุดรธานี ว่า หลังก่อเหตุตนได้หลบหนีไปหางานทำในหลายพื้นที่ ทั้งที่จังหวัดชลบุรี สระบุรี แต่ไม่ได้งานทำ เมื่อ 2 วันก่อนออกเดินทางด้วยเท้าเปล่าจาก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อที่จะกลับไปหาลูกที่จังหวัดร้อยเอ็ด และจะมามอบตัวต่อตำรวจที่จังหวัดอุดรธานี ใช้วีธีค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น แม้จะมีเงินติดตัวอยู่เกือบ 5,000 บาท แต่ไม่ยอมขึ้นรถเพราะกลัวตำรวจจับ
ผู้สื่อข่าวถาม นายปรีชา ถึงสาเหตุที่ต้องลงมือฆ่าเมีย และเผาทำลาย นายปรีชา ไม่ตอบ แต่บอกว่ารักเมียมาก และในขณะที่หลบหนีไปตามจังหวัดต่างๆ ในระยะเวลา 6 วัน หลังจากเกิดเหตุ นายปรีชา บอกว่าได้ยินเสียงของเมียตลอดเวลาว่าขอให้กลับบ้านที่จังหวัดอุดรธานี
ขณะที่ นายพรสวรรค์ ลุนชัยภา อายุ 35 ปี พี่ชายของ น.ส.สุชาดา เปิดเผยถึงความรู้สึกว่า ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย ฝ่ายญาติพี่น้องผู้ตายไม่ได้โกรธแค้นนายปรีชา แต่อย่างใด เพราะตนเองอยู่ร่วมกับนายปรีชา น้องเขยมาหลายปี รู้นิสัยของนายปรีชา ดี เพราะมีการช่วยเหลือครอบครัวมาตลอดเวลา
นายปรีชา ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบทรัพย์สินของตนเองมีเงินสด 4,800 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยคอหนักสองสลึง 1 เส้น แหวนทองคำ 2 วง ให้แก่ลูกทั้ง 2 คน ซึ่งปรากฏว่ามีญาติของ น.ส.สุชาดา คนหนึ่งได้แสดงตัวต่อตำรวจว่าจะขอยื่นเรื่องรับลูกของนายปรีชาทั้ง 2 คนเป็นลูกบุญธรรม
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ (7 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายปรีชา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่ขณะที่ก่อหตุทำร้าย น.ส.สุชาดา ไปจนถึงจุดที่พบศพ