ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้ภาพรวมสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่า และคุณภาพอากาศของเชียงใหม่ดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ย้ำห้ามประมาท พร้อมเน้นกำชับขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมมือจริงจังลดปัจจัยเสี่ยงก่อปัญหา ขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 (ลำปาง) หนุนเครื่องมืออุปกรณ์ระดมฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นอากาศต่อเนื่อง ลดการฟุ้งกระจายของหมอกควัน และฝุ่นขนาดเล็ก
ช่วงเที่ยงวันนี้ (5 มี.ค.) ที่ประตูท่าแพ ในตัวเมืองเชียงใหม่ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยม และชมการใช้งานชุดอุปกรณ์ดับเพลิงควบคุมระยะไกล ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 (ลำปาง) ซึ่งนำมาประจำไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า และคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่
โดยเฉพาะในส่วนของการเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยมีนายคมสัน สุวรรณอัมพา ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 (ลำปาง) นำเยี่ยมชม
ทั้งนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาหมอกควันไฟป่า และคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลให้ความสำคัญ และสั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องเพื่อป้องแก้ไขปัญหา โดยล่าสุด เช้าวันนี้ (5 มี.ค.) พบมีเพียง 2 จังหวัด คือ จังหวัดแพร่ และจังหวัดลำปาง ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะเร่งประสานงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อคลี่คลายปัญหาโดยเร็วที่สุด
ส่วนในภาพรวมของสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่า และคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ถือว่ายังไม่มีอะไรรุนแรงจนถึงขั้นที่น่าเป็นห่วง และสถานการณ์ดีกว่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ยังเพิ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของสถานการณ์ปัญหาจึงไม่สามารถวางใจได้ และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุม และลดปัจจัยเสี่ยงทุกอย่างที่เป็นต้นเหตุของปัญหาให้ได้มากที่สุด ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนทุกคน และทุกภาคส่วนเป็นสำคัญ จึงจะช่วยป้องกันบรรเทาปัญหานี้ลงได้สำเร็จ
ขณะที่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 (ลำปาง) กล่าวว่า การนำรถดับเพลิงควบคุมระยะไกลเข้ามาฉีดพ่นน้ำในจุดที่เป็นพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ มีเป้าหมายเพื่อที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่อากาศ ในช่วงนี้ที่มีละอองหมอกควันและฝุ่นสะสมอยู่ในอากาศเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในตัวเมือง ซึ่งความชุ่มชื้นในอากาศจะช่วยลดปริมาณการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองขนาดเล็กลงได้
ทั้งนี้ การดำเนินการจะร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันดำเนินการเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศเป็นระยะๆ ตั้งแต่ช่วงเช้า ช่วงบ่าย และช่วงเย็นทุกวันจนกว่าจะสิ้นสุดช่วงสถานการณ์ปัญหา เพื่อมุ่งเน้นการลดปริมาณฝุ่นควันที่สะสมในชั้นบรรยากาศ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่อากาศ ซึ่งเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาลงได้เป็นอย่างดี