ประจวบคีรีขันธ์ - สถานการณ์ภัยแล้งประจวบคีรีขันธ์ ยังคงขยายวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลความเจริญอย่างตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน ชาวบ้านกว่า 6,000 คน จาก 12 หมู่บ้าน กำลังได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากน้ำในแม่น้ำปราณบุรีเริ่มแห้งเร็วกว่าทุกปี ชาวบ้านขาดน้ำอุปโภคบริโภค และภาคการเกษตร วอนหน่วยงานภาครัฐจัดสรรงบมาแก้ปัญหาโดยการสร้างฝายกักเก็บน้ำ พร้อมให้หน่วยบินฝนหลวง หัวหิน เร้งทำฝนในพื้นที่ตำบลบึงนครเพื่อบรรเทาภัยแล้งในช่วงนี้ด้วย
วันนี้ (4 มี.ค.) นายศึกฤทธิ์ เต็มฟอม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นเร็วกว่าทุกปีอย่างหนัก เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้มาเร็ว และหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากฝนไม่ตก ทำให้แหล่งน้ำในพื้นที่เริ่มแห้งขอด เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีฝาย และอ่างขนาดเล็กสำหรับกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝน ประกอบกับขณะนี้น้ำในลำน้ำแม่น้ำปราณบุรีก็เริ่มแห้งขอด จนส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน 12 หมู่บ้าน ประชากรได้รับความเดือดร้อนกว่า 6,000 คน
“เบื้องต้นทางองค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการใช้รถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร ซึ่งมีอยู่เพียงคันเดียว สูบน้ำจากแม่น้ำปราณบุรีนำไปแจกตามหมู่บ้านต่างๆ แต่ยังไม่เพียงพอ และเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่ตำบลบึงนคร อยู่ในถิ่นทุรกันดาร
การเดินทางแต่ละหมู่บ้านต้องใช้เวลา ขณะเดียวกัน ผลผลิตทางการเกษตรก็ได้รับความเสียหายจากภัยแล้งในปีนี้เช่นกัน โดยเฉพาะสับปะรด ลำต้น และใบเริ่มเหลืองทำให้ลูกที่ออกมาไม่สมบูรณ์เนื่องจากขาดน้ำ เกษตรกรบางรายต้องลงทุนขุดบ่อเองต่อน้ำมารดแต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะขณะนี้น้ำในบ่อเริ่มแห้งลงกัน และไม่สามารถนำไปอุปโภคบริโภคได้”
นายศึกฤทธิ์ เต็มฟอม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร กล่าวต่อว่า ตน พร้อมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่อยากให้ทางหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดสรรงบประมาณลงในพื้นที่ห่างไกลความเจริญบ้าง แม้แต่ไฟฟ้าก็ไม่มีใช้ เพื่อดำเนินการสร้างฝาย หรืออ่างเก็บน้ำขนาดเล็กเพื่อกักเก็บน้ำในฤดูฝนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง
โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะเกิดน้ำป่าน้ำท่วมได้รับความเสียหายทุกปี พอเข้าช่วงฤดูแล้งก็ได้รับผลกระทบ ทำให้ชาวบ้านตำบลบึงนคร ได้รับความเดือดร้อน และอยากให้หน่วยบินฝนหลวงที่มาดำเนินการแล้วช่วยบินทำฝนในพื้นที่แถบตำบลบึงนคร บ้าง อย่างน้อยหากมีฝนตกลงมาบ้างก็ยังเป็นการบรรเทาต่อภาคการเกษตร และยังสามารถรองน้ำตามภาชนะตามบ้านเรือน และถังกลางไว้ใช้ได้ เพราะขณะนี้น้ำจากลำห้วยก็ใช้ดื่มกิน และหุงข้าวไม่ได้เวลาอาบก็เกิดผื่นคัน เนื่องจากเป็นโคลน บางครั้งนำมาหุงข้าวก็จะบูดเช่นกัน
ด้าน นายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดระจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาน้ำที่ขาดแคลน โดยจะให้ทางหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประสานงานกับหน่วยงานข้างเคียง โดยเฉพาะทหารเพื่อนำรถบรรทุกน้ำไปเติมให้ชาวบ้าน
ส่วนเรื่องการสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อกักเก็บน้ำ และฝายก็จะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และให้กลับมารายงานว่าจะสามารถดำเนินการอะไรได้บ้างในพื้นที่ตำบลบลึงนคร ที่ประสบปัญหาภัยแล้งทุกปี
