จันทบูรี - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี ได้มาตั้งฐานการบินเพื่อเตรียมขึ้นบินทำฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งใน 8 อำเภอ จาก 10 อำเภอ ของจังหวัดจันทบุรี และพร้อมขึ้นบินในพื้นที่เป้าหมายใน 2 อำเภอ ในวันที่ 6-7 มีนาคม 2559 นี้
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สนามบินท่าใหม่อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี นายสุรพันธุ์ สุวรรณไพบูลย์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี ได้นำเครื่องบินเกษตร จำนวน 3 ลำ และสารเคมีที่ใช้ในการโปรยสารฝนหลวงเข้ามาตั้งฐานการบินในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีแล้ว โดยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในปัจจุบันมีชาวบ้าน และพื้นที่ทางการเกษตรต้องการน้ำ และต้องการหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเข้ามาทำฝนหลวงเป็นอย่างมาก
เนื่องจากในช่วงนี้ผลผลิตของเกษตรกรกำลังให้ผลผลิตออกดอก และให้ลูกเป็นจำนวนมาก น้ำจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ชาวบ้าน และเกษตรกรชาวสวนต้องการเป็นอย่างมาก ประกอบกับพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ประสบปัญหาภัยแล้งขึ้นเป็นประจำทุกปี ล่าสุด ทางจังหวัดได้ประกาศให้ 8 อำเภอ จาก 10 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งแล้ว โดยมี 33 ตำบล 256 หมู่บ้าน 56,115 ครัวเรือน และชาวบ้านเดือดร้อน 184,510 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ง
สำหรับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี จะอยู่ปฏิบัติการขึ้นโปรยสารฝนหลวงเพื่อทำฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2559 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2559 นี้ และจะเริ่มขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนหลวงในพื้นที่เป้าหมายใน 2 อำเภอ คือ อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงก่อนเป็นอันดับแรก โดยจะเริ่มปฏิบัติการขึ้นบินโปรยสารฝนหลวงหลังสำรวจสภาพอากาศที่เหมาะสมไว้วันที่ 6-7 มีนาคม 2559 นี้ในการขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวง
นายสุรพันธุ์ สุวรรณไพบูลย์ หัวหน้าปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี กล่าวว่า ทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี จะเริ่มขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวงในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรีก่อน โดยพื้นที่ดังกล่าวมีเกษตรกรชาวสวน และชาวบ้านได้มีการร้องขอมามาก เพราะเป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากทุกปี ประกอบกับพื้นที่ใน 2 อำเภอ มีการปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ลำไย และผลไม้ชนิดอื่นๆ เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ หากพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านใน 2 อำเภอ ได้ฝนหลวงดีแล้วก็จะเน้นเข้าไปปฏิบัติการตามเขื่อน และอ่างเก็บกักน้ำในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีต่อไป