กรมศิลป์ตามเช็กทะเบียนราษฎร ล่าคนมือบอนเขียน “ภาพสีโบราณประตูผา” จนเลอะ

ลำปาง - ศิลปากรที่ 7 น่านเริ่มให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทะเบียนราษฎร ล่าตัวคนมือบอนเขียนกลอนบอกรัก-วาดภาพเพิ่ม จนทำ “ภาพเขียนสีโบราณประตูผาลำปาง” เลอะ-เสื่อมค่า ก่อนแจ้งความ พร้อมหาวิธีลบทิ้งให้หมด รับหน่วยงานในจังหวัดฯ ไม่สนใจร่วมอนุรักษ์ ต่างจากอุบลฯ ที่พัฒนา “ผาแต้ม” จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแถวหน้าของไทย

นายไกรสิน อุ่นใจจินต์ นักโบราณคดีชำนาญการพิเศษ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 น่าน ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า หลังจากอธิบดีกรมศิลปากร เดินทางมาดูความเสียหายภาพเขียนสีประตูผา อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง พร้อมสั่งการให้เร่งดำเนินการแก้ไข และซ่อมแซม เพราะถือว่ากระทบต่อภาพเขียนสี-ภูมิทัศน์โบราณสถานเสื่อมค่าลงนั้น

ทางสำนักศิลปากรที่ 7 น่าน ซึ่งเป็นผู้ดูแลโบราณสถานในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ ลำปาง พะเยา แพร่ และน่าน จะเป็นผู้ดำเนินงานตามข้อสั่งการของอธิบดีกรมศิลปากร เรื่องแรก ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ คือ การลบรอยข้อความที่ถูกขีดเขียนลงไป ซึ่งในส่วนที่เขียนลงหน้าผาหินนั้นไม่กังวลมากนัก

แต่ในจุดที่ทับภาพเขียนสีโบราณถือว่าน่าห่วง จะต้องศึกษา วิเคราะห์ ประเมินในการใช้วิธีการ และน้ำยาเคมีทางวิทยาศาสตร์ ให้เหมาะสม และอย่างดีที่สุด เพื่อลอกข้อความที่ถูกเขียนใหม่ออก เหลือไว้แต่ภาพเขียนสีโบราณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมาก ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษา และเตรียมขั้นตอนก่อนลงมือทำ

เรื่องต่อมาที่ต้องทำ คือ เร่งติดตั้งป้ายเตือนเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำเลียนแบบ รวมถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิด เนื่องจากไม่สามารถจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลได้ตลอดเวลา จึงต้องใช้เทคโนโลยีให้เข้ามาเป็นประโยชน์ต่อการเฝ้าระวัง ไม่ให้คนมาขีดเขียนใดๆเพิ่มอีก

นายไกรสินกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนในเรื่องรั้วกันนั้น เดิมทีอธิบดีกรมศิลปากรได้มีนโยบายว่าอาจจะมีการใช้ลวดหนามวางกั้นเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้หน้าผาที่มีภาพเขียนสีโบราณ และเขียนข้อความลงในหน้าผา หรือภาพเขียนสีได้ ซึ่งตนมองว่า หากนำลวดหนามไปวางกั้นไว้อาจจะกระทบต่อทัศนียภาพที่สวยงามได้

แต่หากเป็นรั้วกันแบบสวยงามก็น่าจะเหมาะ แต่ก็ต้องออกแบบให้เหมาะกับภูมิทัศน์บริเวณนี้ ซึ่งทางกลุ่มงานสถาปัตย์ของกรมศิลปากรจะเป็นผู้ออกแบบถึงจะเข้ามาดำเนินการได้ ทั้งนี้ การดำเนินงานดังกล่าวนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสถานที่โบราณสถานประตูผา

ด้านข้อสั่งการของอธิบดีกรมศิลปากรที่จะให้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่เมาะ เพื่อตามหาคนที่เขียนข้อความ ทั้งกลอน และข้อความบอกรักลงบนหน้าผาหิน และระบุชื่อด้วย โดยมี 4-5 ชื่อนั้น ทางสำนักงานศิลปากรที่ 7 น่าน ได้ให้เจ้าหน้าที่นำรายชื่อดังกล่าวไปตรวจสอบกับทางอำเภอก่อน เพื่อตรวจสอบที่อยู่ตามทะเบียนราษฎรว่าชื่อดังกล่าวมีตัวตนอยู่หรือไม่ และมีที่อยู่ที่ใด หลังจากนั้นก็จะเข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“ยอมรับว่าทางจังหวัดลำปางไม่สนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้ช่วยกันอนุรักษ์ และดูแลอย่างจริงจัง”

นายไกรสินบอกว่า หลังจากมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยกันพัฒนา ทั้งการปรับภูมิทัศน์ และการสร้างทางเดินขึ้นไปสถานที่โบราณแห่งนี้ก็ถูกปล่อยทิ้งไว้ ถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่ดูแลผืนป่าของค่ายฝึกรบพิเศษประตูผา อ.แม่เมาะ แต่เจ้าหน้าที่ และงบประมาณในการดูแลก็มีขีดจำกัด หรือหากจะโยนงานดูแลทั้งหมดมาให้ทางสำนักศิลปากรที่ 7 น่าน ที่ดูแลพื้นที่ทั้ง 4 จังหวัด ก็จะไม่สามารถที่จะดูแลอย่างทั่วถึงได้

ดังนั้นจึงอยากให้ทุกฝ่ายในจังหวัดระดมพลังกัน และช่วยกันดูแลเหมือนกับภาพเขียนสีผาแต้ม จ.อุบลราชธานี ที่ทางจังหวัดสนใจ และตั้งคณะกรรมการของหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการดูแล พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดีที่มีชื่อเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้