ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผบช.ตร.ภ.4 คุมทำแผนประกอบคำรับสารภาพเอง หลังหญิงวัย 42 ปี ยอมเปิดปากพยายามฆ่า และฝังดินลูกของตัวเองหลังปวดท้องคลอดขณะรับจ้างตัดไม้ในป่า อ้างกลัวผัวรู้ และไม่มีปัญญาเลี้ยงดู
จากเหตุสะเทือนใจมีผู้พบทารกเพศชายแรกเกิดประมาณ 1 วัน ถูกแทงตามร่างกายมีบาดแผลทั้งตัว 14 แผล แล้วนำไปฝังดินภายในป่าสวนยูลิปตัสใกล้ถนนบ้านโนนสวรรค์-บะแค ห่างจากหมู่บ้านโนนสวรรค์ประมาณ 2 กม. ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ต่อมา ทารกรายดังกล่าวถูกนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลขอนแก่น และมีการตั้งชื่อให้ว่า “น้องไอดิน”
ล่าสุด เช้าวันนี้ (27 ก.พ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้นำตัว น.ส.สุดา ทองดี หรือมล อายุ 42 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณทุ่งนาทิศเหนือบ้านโนนสวรรค์ หมู่ 3 ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น
หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพว่า ทารกเพศชาย “น้องไอดิน” ที่ถูกแทง และถูกฝังเป็นคือลูกของตัวเอง เหตุคลอดจากการแท้งขณะทำงานตัดไม้ที่ทุ่งนาใกล้จุดฝังทารก
โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพครั้งนี้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย เพื่อควบคุมไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ โดย น.ส.สุดา ได้ชี้จุดบริเวณใต้ต้นยูคาลิปตัสเป็นจุดที่นำทารกลูกชายตัวเองมาฝังทิ้งไว้
น.ส.สุดา เป็นชาวบ้านใหม่นาเพียง ม.1 ต.ใหม่นาเพียง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อช่วงสายของวันที่ 23 ก.พ.59 ที่ผ่านมา ได้ออกมาจากบ้านพร้อมกับสามีเพื่อรับจ้างตัดต้นยูคาลิปตัส โดยแยกกันตัดต้นยูคาลิปตัสคนละจุด ขณะทำงานตัดไม้อยู่นั้นได้เกิดปวดท้องคลอดลูกกะทันหัน จึงได้พยายามคลอดลูกออกมาเอง
หลังจากทารกคลอดออกมาแล้วตนได้ใช้เศษไม้ที่หยิบได้แถวนั้นตัดรกเด็กแยกออกจากตัวเอง และด้วยความที่กลัวว่าสามีจะรู้ว่าตนคลอดลูก เพราะตลอดเวลา 9 เดือนที่อุ้มท้องนั้นตนพยายามปกปิดไม่ให้สามีรู้
ประกอบกับคิดว่าตนคงไม่สามารถเลี้ยงดูลูกที่เพิ่งคลอดออกมาได้อีก เพราะมีลูกชายอยู่แล้ว 3 คน เนื่องจากฐานะที่ยากจน จึงตัดสินใจนำถุงพลาสติกที่ตกอยู่บริเวณนั้นรัดคอเด็ก พร้อมกับนำกิ่งไม้บริเวณที่เกิดเหตุแทงตามลำตัวเด็กจำนวนหลายครั้งจนเด็กแน่นิ่งไป และคิดว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว
จากนั้นได้ขุดหลุมแล้วนำเสื้อสีแดงที่เก็บได้แถวนั้นมาคลุมร่างเด็ก พร้อมกับนำดิน และเศษกิ่งไม้มาถมกลบร่าง แล้วรีบขับรถไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดโดยนำเสื้อผ้าไปฝังดิน จนกระทั่งเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน จึงได้ขับรถกลับไปรับสามีโดยไม่ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังแต่อย่างใดเพราะกลัวถูกด่า
สำหรับคดีที่เกิดขึ้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีภูธรแวงใหญ่ ได้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.สุดา ในฐานความผิดพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย และทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกิน 9 ปี ไว้ ณ ที่ใดเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลจนเป็นเหตุได้รับอันตรายสาหัส ก่อนส่งพนังงานสอบสวนดำเนินคดี
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.วันเดียวกันนี้ หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แวงใหญ่ ได้นำตัว น.ส.สุดา ไปส่งฟ้องศาลจังหวัดพลแล้ว
