ศรีสะเกษ - ชาวบ้านหนองเม็กชุมนุมปกป้องเจ้าอาวาส พร้อมขับไล่ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวหาว่าสร้างความแตกแยกในหมู่บ้าน เหตุแค้นที่โดนเจ้าอาวาสไม่เห็นด้วยให้สร้างศาลาการเปรียญค่ากว่า 7 ล้านบาททั้งที่หาผู้รับเหมาไว้แล้ว
เมื่อเวลา 16.15 น.วันนี้ (31 ธ.ค.) ที่วัดบ้านหนองเม็ก หมู่ 5 ต.ตำแย อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีชาวบ้านหนองเม็ก จำนวนประมาณ 100 คน นำโดย นายจรูญ อินทะโล อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 ต.หนองเม็ก อ.พยุห์ และ นายสมบัติ พุทธิชนม์ อายุ 56 ปี ไวยาวัชกรวัดหนองเม็ก นายวันชัย พุทธิชนม์ อายุ 46 ปี ได้มาชุมนุมกันภายในวัด
เพื่อปกป้องพระอธิการนิคม ถาวโร เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองเม็ก ซึ่ง ถูกนายสุพิศ โนนน้อย อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ประกาศทางหอกระจายข่าวกล่าวหาพระอธิการนิคมว่า สร้างความแตกแยกเหตุที่ไม่เห็นด้วยกับการที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 จะสร้างศาลาการเปรียญ ขนาดกว้าง 16 เมตร ยาว 28 เมตร มูลค่า 7 ล้านบาท และขอให้พระอธิการนิคมพิจารณาตัวเองให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น
ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจเป็นอย่างมากพร้อมทั้งตะโกนเรียกร้องให้ผู้ใหญ่บ้านหนองเม็กลาออกไป และขอให้พระอธิการนิคมเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้ต่อไป
นายวันชัย พุทธิชนม์ แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมกรรมการหมู่บ้านร่วมกับคณะสงฆ์วัดบ้านหนองเม็ก เพื่อหารือเกี่ยวกับการที่จะมีการสร้างศาลาการเปรียญของวัด โดย นายสุพิศ โนนน้อย ผู้ใหญ่บ้านหนองเม็ก หมู่ 5 ได้นำเอาแบบแปลนมาแจ้งให้กรรมการวัดได้ทราบ โดยค่าก่อสร้างเป็นเงิน 7 ล้านบาท แต่กรรมการวัดไม่เห็นด้วย เนื่องจากว่ามีเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาเพียง 470,000 บาท
ดังนั้นกรรมการวัดและเจ้าอาวาสจึงเห็นว่าควรจัดงานฉลองพระอุโบสถวัด ตัดหวาย ฝังลูกนิมิตของโบสถ์ที่สร้างเสร็จแล้ว เพื่อจะได้มีเงินมาสมทบในการก่อสร้างศาลาการเปรียญเสียก่อน ซึ่งปรากฏว่านายสุพิศไม่เห็นด้วยและไม่พอใจ ยังคงดึงดันที่จะก่อสร้าง โดยนายสุพิศได้ไปหาผู้รับเหมาและเขียนแบบก่อสร้างมาเรียบร้อยแล้วโดยที่ไม่ได้มีกรรมการวัดคนใดรับรู้ด้วย และได้มีการเลิกประชุม ซึ่งมีมติว่าให้จัดงานฉลองพระอุโบสถเสียก่อน
นายจรูญ อินทะโล กล่าวว่า ต่อมาในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น นายสุพิศได้ประกาศทางหอกระจายข่าวว่า ตั้งแต่พระอธิการนิคม เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองเม็ก มาอยู่ที่นี่สร้างแต่ความแตกแยกในหมู่บ้าน ขอให้มีการพิจารณาตัวเองย้ายไปอยู่วัดอื่น ซึ่งทำให้ชาวบ้านที่ได้รับทราบข่าวนี้ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
อีกทั้ง นายสุพิศ ยังมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสหลายอย่าง เช่น การก่อสร้างเมรุเผาศพประจำหมู่บ้าน ซึ่งตกลงกับผู้รับจ้าง จำนวน 950,000 บาท แต่เวลาจ่ายจริง ผู้ใหญ่บ้านได้นำเงินไปจ่ายเป็นจำนวน 1,100,000 บาท ซึ่งจ่ายเกินจากจำนวนเงินที่ตกลงไว้ ประกอบกับปูนและหิน ทรายที่ใช้ในการก่อสร้างไม่มีคุณภาพ
รวมทั้งยอดเงินงานกฐินประจำปี 2557 ผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศแจ้งให้ทราบว่า ยอดเงินที่ได้จากการทอดกฐินจำนวน 130,000 บาท แต่ว่านำเงินเพียง 97,000 บาท มามอบให้คณะกรรมการวัด และผู้ใหญ่บ้านไม่สามารถชี้แจงได้
รวมถึงเรื่องนำเอาเก้าอี้ของวัดไปขาย จำนวนประมาณ 100 ตัว ซึ่งเมื่อชาวบ้านสอบถามว่า เงินที่ขายเก้าอี้ได้อยู่ที่ใด ผู้ใหญ่บ้านบอกว่า จะนำเงินไปซื้อเก้าอี้ชุดใหม่แต่จนกระทั่งมาถึงบัดนี้ยังไม่เห็นเก้าอี้แม้แต่ตัวเดียว
นายจรูญ กล่าวอีกว่า ล่าสุดผู้ใหญ่บ้านได้ตัดไม้ยูคาลิปตัส ซึ่งปลูกไว้บริเวณหนองน้ำสาธารณะหนองสังข์ ซึ่งปลูกอยู่เป็นเวลาประมาณ 10 ปีแล้ว และเป็นสมบัติส่วนรวมของชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้านหนองเม็กได้ขายต้นยูคาลิปตัส โดยไม่แจ้งจำนวนเงินที่ขายได้ และไม่แจ้งการใช้จ่ายเงินจำนวนนี้ให้ชาวบ้านได้รับรู้
ทั้งหมดนี้ ชาวบ้านไม่พอใจ จึงได้รวมตัวกันมาชุมนุมเพื่อปกป้องเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองเม็ก และขับไล่ให้ผู้ใหญ่บ้านหนองเม็กลาออก เพราะพวกตนเห็นว่า หากผู้ใหญ่บ้านทำตัวไม่เหมาะสม ไม่โปร่งใส ชาวบ้านสามารถหาผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ได้ แต่ว่าเจ้าอาวาสวัดไม่สามารถหาใหม่ได้ เนื่องจากพระอธิการนิคม เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านหนองเม็กเป็นอย่างมาก
โดยเรื่องนี้ได้ทำหนังสือร้องเรียนพฤติกรรมของผู้ใหญ่บ้านหนองเม็ก ไปยังศูนย์ดำรงธรรมจ.ศรีสะเกษ เพื่อให้มาทำการสอบสวนและให้ผู้ใหญ่บ้านหนองเม็กพ้นจากตำแหน่งไป
ทางด้านนายสุพิศ โนนน้อย ผู้ใหญ่บ้านหนองเม็ก กล่าวว่า ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนนั้นไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด การที่ตนนำเอาแบบแปลนสร้างศาลาการเปรียญมาแจ้งให้ที่ประชุมทราบเพื่อพิจารณาหากว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากไม่พอใจเกี่ยวกับราคาที่เห็นว่าแพงเกินไป ก็อาจต่อรองราคาหรือหาผู้รับเหมารายใหม่มาก่อสร้างได้ และตนไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการฉลองพระอุโบสถหลังใหม่ เนื่องจากว่าการก่อสร้างยังไม่ได้รับวิสุงคามเสมา ควรจะทำการก่อสร้างศาลาการเปรียญไปเลย ได้เงินมาเท่าไรก็ก่อสร้างไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะแล้วเสร็จ
ส่วนการกล่าวหาตนเกี่ยวกับเรื่องเงินทั้งหมดนั้น ตนทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใสและมีหลักฐานในการใช้จ่ายเงินทุกอย่าง ตนทำทุกอย่างเพื่อความเจริญของหมู่บ้าน การที่มาชุมนุมขับไล่ตนต้องให้โอกาสตนแก้ตัวด้วยว่าตนผิดอะไร ไม่ใช่มารวมกลุ่มกันเพื่อขับไล่ตนโดยใช้คนหมู่มาก เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ตนพร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริง เพื่อแก้ข้อกล่าวหาอย่างเต็มที่ต่อไป