ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กลุ่มจังหวัดอีสานใต้ระดมฝึกแผนภาคปฏิบัติช่วย ปชช.ประสบภัยแล้งรุนแรง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือศึกแย่งชิงน้ำ เผย 2 จังหวัด โคราช-บุรีรัมย์ เข้าขั้นวิกฤตประกาศพิบัติแล้งแล้ว 12 อำเภอ 69 ตำบล 681 หมู่บ้าน ปชช.เดือดร้อนเกือบ 5 หมื่นครอบครัว พื้นที่เกษตรสูญกว่า 4 แสนไร่ โคราชโคม่าขาดน้ำกินน้ำใช้ 3 อำเภอ
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 (ปภ.เขต 5) นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายนิรันดร์ ดุจจานุทัศน์ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการฝึกและป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากภัยแล้ง และภัยจากพายุฤดูร้อน ระดับกลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ 2559 โดยมีตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ในพื้นที่ 4 จังหวัด “นครชัยบุรินทร์” ประกอบด้วย นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ และสุรินทร์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐเอกชน และหน่วยกู้ภัย เข้าร่วมประชุมและฝึกปฏิบัติด้วยการจำลองสถานการณ์จริง
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและภัยแล้ง ภัยจากพายุฤดูร้อน เพื่อทดสอบการเตรียมความพร้อมในด้านทรัพยากร ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา ในการสนับสนุนการจัดการสาธารณภัยของจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึงเสริมสร้างทักษะ ความชำนาญ ประสบการณ์และพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพ ในการปฏิบัติการต่อภาวะฉุกเฉินภายใต้สถานการณ์สมมติ และเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสาร การประสานงานเข้าร่วมปฏิบัติ การรับมอบภารกิจจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด
นางปิยะฉัตร อินสว่าง ผู้อำนวยการ ปภ.เขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ได้ทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ล่าสุดมีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ง แล้ว 2 จังหวัด คือ นครราชสีมา และบุรีรัมย์ รวม 12 อำเภอ 69 ตำบล 681 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 47,766 ครอบครัว มีพื้นที่การเกษตรเสียหายแล้ว 404,706.5 ไร่ แบ่งเป็น นาข้าว 385,491.5 ไร่ และพืชไร่ 19,215 ไร่
สำหรับ จ.นครราชสีมา ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ง รวม 10 อำเภอ 62 ตำบล 658 หมู่บ้าน 46,578 ครอบครัว แบ่งเป็นพื้นที่เสียหายด้านเกษตร 8 อำเภอ คือ ขามสะแกแสง คง บัวลาย แก้งสนามนาง ด่านขุนทด โนนสูง เทพารักษ์ พื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค 3 อำเภอ คือ ด่านขุนทด พระทองคำ และบัวใหญ่ ทั้งนี้เนื่องจากน้ำในอ่างเก็บน้ำและน้ำท่ามีน้อยกว่าเกณฑ์ค่าเฉลี่ย
ส่วน จ.บุรีรัมย์ ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ง รวม 2 อำเภอ 6 ตำบล 23 หมู่บ้าน 1,188 ครอบครัว พื้นที่เสียหายด้านการเกษตร 7,861.5 ไร่ แบ่งเป็น อ.พลับพลาชัย 4 ตำบล 17 หมู่บ้าน 916 ครอบครัว นาข้าวเสียหาย 6,164.5 ไร่ และ อ.เมือง 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน 272 ครอบครัว นาข้าวเสียหาย 1,697 ไร่
นางปิยะฉัตรกล่าวอีกว่า ขณะนี้หน่วยงานในพื้นที่ระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือ ประชาชนที่ประสบภัยพิบัติฯ ในทุกพื้นที่แล้ว ซึ่งการฝึกซ้อมแผนในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมการฝึก ได้ตระหนักและทราบถึงบทบาทภารกิจของหน่วยงานตนเองในการเตรียมความพร้อมการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้ง ตลาดจนประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสั่งการ ฯลฯ หากเกิดการแย่งชิงน้ำ หรือลักลอบสูบน้ำ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่อย่างทั่วถึง