กาฬสินธุ์ - ผอ.โรงเรียนหนองสอพิทยาคม เมืองกาฬสินธุ์ ผู้เผยแพร่คลิปเสียงเตือนระวังแก๊งปลอมเป็นตำรวจโทรศัพท์หลอกขอข้อมูลธนาคารฯ เปิดใจเกือบตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ ย้ำให้ตั้งสติ ทำให้ไม่หลงกลตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินให้แก๊งมิจฉาชีพ
จากกรณีมีการแชร์คลิปเสียง “แก๊งมิจฉาชีพกำลังจะหลอก ผอ.ร.ร.หนองสอพิทยาคม สพม.24 ฟังคลิปดูและระวังด้วยครับ” ซึ่งผู้โพสต์ต้องการเตือนภัยสังคมเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว โดยคลิปดังกล่าวถูกส่งต่อไปกันอย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์
ล่าสุดวันนี้ (24 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบกับนายกลวัชร วังสะอาด ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองสอพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ในสังกัด สพม.24 และเป็นผู้ที่รับโทรศัพท์สนทนากับแก๊งมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบปราม จนเกือบตกเป็นเหยื่อและเป็นผู้เผยแพร่คลิปเสียงเตือนภัยดังกล่าว
นายกลวัชร วังสะอาด ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองสอพิทยาคม กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีโทรศัพท์หมายเลข 09-4895-5342 โทร.เข้ามาถามว่าใช่ ผอ.โรงเรียนหนองสอพิทยาคมหรือไม่ จากนั้นก็แนะนำตัวโดยอ้างว่าเป็นตำรวจจาก สภ.เมืองกาฬสินธุ์ โทร.มาแจ้งเรื่องสำคัญ และหลอกว่าตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ได้ร่วมกับตำรวจกองปราบปราม และตำรวจป้องกันปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. ได้จับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด ซึ่งลำเลียงมาจากภาคเหนือในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ 2 ราย
จากการตรวจสอบบัญชีธนาคาร พบว่ามีบัญชีธนาคารของตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มค้ายา จากนั้นชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจก็ซักถามเรื่องเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินธนาคารของตนทุกแห่ง ทั้งการเปิดบัญชี ยอดเงินคงเหลือ พร้อมกับบอกให้คุยโทรศัพท์บอกรายละเอียดต่อกับชายคนที่ 2 ซึ่งอ้างว่าเป็นสารวัตรตำรวจกองปราบปรามยศ ร.ต.ท. แต่ชายคนที่ 2 กลับแนะนำตัวว่ามียศ พ.ต.ท.อยู่ในกองปราบปราม
นายกลวัชรกล่าวต่อว่า หลังจากฟังไปสักพักตนก็เริ่มเอะใจและสงสัยแล้วว่าทั้ง 2 คน เป็นตำรวจจริงหรือไม่เนื่องจากเรียกชื่อโรงพักก็ผิด เพราะปัจจุบันตำรวจเปลี่ยนชื่อจาก สภ.อ.เป็น สภ.แล้ว อีกทั้งการแนะนำตัวของทั้งสองคนก็ผิดและไม่ตรงกัน จากนั้นชายคนที่ 2 ก็พยายามพูดจาชักจูงให้หลงเชื่อว่าบัญชีธนาคารของตนเข้าไปพัวพันแก๊งค้ายา พร้อมกับหลอกให้นำบัตรเอทีเอ็มที่มีอยู่ทั้งหมดไปกดเช็กข้อมูลในตู้เอทีเอ็ม โดยขู่ว่าหากไม่ทำตามบัญชีธนาคารจะถูกอายัดและไม่สามารถติดตามจับคนร้ายได้
แต่ระหว่างที่จะไปตู้เอทีเอ็มคนร้ายบอกว่าห้ามวางสาย ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติและน่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหลอก จึงบอกกลับไปว่าหากบัญชีธนาคารถูกอายัดจริงก็ให้อายัดไปเลย ซึ่งตนจะไปติดต่อธนาคารด้วยตัวเอง คนร้ายจึงเกิดความโมโห และยังพยายามพูดจาให้หลงเชื่ออยู่ แต่ตนไม่หลงเชื่อทำตาม คนร้ายจึงวางสายไป จากนั้นได้โทรศัพท์กลับไปแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงมั่นใจว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพแน่นอน
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวระหว่างคุยโทรศัพท์ตนพยายามตั้งสติ จึงทำให้ไม่หลงกลตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินให้แก๊งมิจฉาชีพ ดังนั้น จึงอยากฝากไปยังประชาชนให้ระมัดระวัง หากประสบกับเหตุการณ์ลักษะดังกล่าวให้ตั้งสติและเชื่อได้เลยว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่โทรศัพท์มาหลอก เพราะเท่าที่ทราบตำรวจไม่ได้ปฏิบัติแบบนี้ อีกทั้งบัญชีธนาคารไม่น่าจะถูกอายัดง่ายๆ แบบนี้ และที่สำคัญตนก็ไม่ได้เข้าไปพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดอีกด้วย
ด้าน พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หากประชาชนคนใดพบเห็นหรือประสบกับลักษณะเหตุการณ์มีโทรศัพท์มาอ้างเป็นตำรวจหลอกแบบนี้ ให้ทราบไว้เลยว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพแน่นอน เพราะระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน สังกัดใดจะไม่มีโทรศัพท์มาแจ้งและสอบถามบัญชีธนาคาร
ดังนั้น จึงฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวัง อย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด เพราะแก๊งเหล่านี้มักจะหลอกเหยื่อที่มีหน้าที่การงานดี และมีเงินในบัญชีธนาคาร หากพบข้อมูลและเบาะแส หรือมีโทรศัพท์มาหลอกลวงให้แจ้งความตำรวจทันที