บุรีรัมย์ - “ลูกชิ้นยืนกิน” หลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ถือเป็นเอกลักษณ์การกินลูกชิ้นที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งรสชาติอร่อย น้ำจิ้มรสเด็ด ยืนหยัดมากว่า 50 ปี แต่ละวันมีประชาชนและนักท่องเที่ยวมายืนกินและซื้อไปเป็นของฝากจำนวนมาก พ่อค้าแม่ค้าแต่ละรายมียอดขายวันละ 80-100 กิโลกรัม สร้างรายได้วันละ 5,000-10,000 บาท
วันนี้ (22 ก.พ.) หากพูดถึงลูกชิ้นทอดหรือลูกชิ้นปิ้งปัจจุบันจะพบวางขายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่ที่จังหวัดบุรีรัมย์มีเอกลักษณ์การกินที่ไม่เหมือนใคร เพราะส่วนใหญ่ลูกค้านิยมยืนกินมากกว่าซื้อกลับไปกินที่บ้าน จนได้ชื่อว่า “ลูกชิ้นยืนกิน”
โดยเฉพาะที่บริเวณหอนาฬิกา ด้านหลังสถานีรถไฟในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ที่มีพ่อค้าแม่ค้าใช้รถเข็นหรือจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจอดขายลูกชิ้นทอดอยู่เกือบ 10 เจ้า แต่ละวันจะมีประชาชน นักเรียน นักศึกษา รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในจังหวัด จะแวะเวียนมายืนกินลูกชิ้นที่หลังสถานีรถไฟเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวัน หรือช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีนักท่องเที่ยวมายืนกินเนืองแน่นเต็มทุกเจ้า ซึ่งการยืนกินลูกชิ้นนอกจากจะเป็นเอกลักษณ์หรือจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครแล้ว ความกรอบอร่อยของลูกชิ้นทอด รวมถึงน้ำจิ้มรสเด็ดที่มีสูตรเฉพาะทำจากน้ำมะขามเปียก และพริกทอดทำให้เป็นที่ถูกปากถูกใจลูกค้า
จนบางคนนอกจากยืนกินแล้วยังซื้อลูกชิ้นที่ทอดแล้ว และที่ยังไม่ทอดกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าแต่ละรายสามารถขายลูกชิ้นได้วันละ 80-100 กิโลกรัม มีรายได้เฉลี่ยวันละ 5,000-10,000 บาท โดยจะขายไม้ละ 3 บาท หากเป็นชุด ชุดละ 60 และ 100 บาท
นางสงกรานต์ กาทองทุ่ง อายุ 53 ปี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจาก จ.แพร่ บอกว่า หลังทราบข่าวว่ามี “ลูกชิ้นยืนกิน” ที่แปลกแตกต่างกว่าจังหวัดอื่น เมื่อมีโอกาสได้เดินทางมาเที่ยวที่ จ.บุรีรัมย์จึงมาลองกินลูกชิ้นที่หลังสถานีรถไฟดังกล่าวพบว่าอร่อยทั้งลูกชิ้นและน้ำจิ้มสมคำบอกเล่าจริงๆ แต่เมื่อได้มายืนกินก็รู้สึกแปลกและได้อรรถรสในการกินอีกแบบ นอกจากกินแล้วก็ยังซื้อติดมือกลับไปฝากที่บ้านด้วย
ด้านนางรุ่งอรุณ ชนะทะแล อายุ 50 ปี แม่ค้าขายลูกชิ้น เจ้าต้นตำรับ บอกว่า ได้ขายลูกชิ้นทอดที่หลังสถานีรถไฟมากว่า 50 ปีแล้ว ขายมาตั้งแต่รุ่นแม่จนปัจจุบันตนเป็นรุ่นที่สองแล้ว แต่ที่เป็นเอกลักษณ์คือลูกค้าจะชอบยืนกินมากกว่าซื้อกลับไปกินที่บ้าน จนเรียกว่า “ลูกชิ้นยืนกิน”
โดยจะขายตั้งแต่ 3 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น หากเป็นวันธรรมดาจะขายได้วันละประมาณ 80 กิโลกรัม หากเป็นวันหยุดติดต่อกันหลายวัน หรือช่วงเทศกาลจะขายได้วันละมากกว่า 100 กิโลกรัม มีรายได้เฉลี่ยวันละ 5,000-10,000 บาท ปัจจุบันมีขายอยู่ทั่วเมืองบุรีรัมย์มากกว่า 100 เจ้า และส่วนใหญ่ลูกค้าจะนิยมยืนกิน