ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านสาวชะโงกสุดทน ชี้บอกผู้สื่อข่าวระบุท่อน้ำประปาแตกอยู่กลางถนนเป็นเวลานาน 3 ปี แต่ไร้คนรับผิดชอบเข้าดูแล หวั่นภัยแล้งลามกระทบทั่วพื้นที่ หลังน้ำเริ่มแห้งขาดหายไปจากลำคลองทั่วทั้งจังหวัด วอนหน่วยงานผู้รับผิดชอบเข้าแก้ไข ระบุเสียดายน้ำทิ้งที่ไหลนองถนนโดยเปล่าประโยชน์มานานถึง 3 ปีแล้ว
วันนี้ (21 ก.พ.) นายสมบูรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้แจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบว่า ในบริเวณถนนองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เส้นทางสายศาลาเขียว-สาวชะโงก ได้มีท่อน้ำประปาซึ่งเป็นท่อแยกออกมาจากท่อเมนหลัก ข้ามถนนก่อนเข้ามาสู่บ้านเรือนของผู้ใช้น้ำได้เกิดการแตกชำรุดเสียหายมานานเกือบ 3 ปีแล้ว แต่ยังไร้หน่วยงานผู้รับผิดชอบเข้ามาทำการดูแลแก้ไข
ตลอดจนผู้นำชุมชน และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ที่มีบ้านเรือนพักอาศัยอยู่ใกล้ต่างไม่มีใครให้ความสนใจที่จะแจ้งไปยังการประปาส่วนภูมิภาคสาขาบางคล้า ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการให้บริการให้ทราบถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ตนเองตลอดจนผู้คนที่ใช้รถสัญจรผ่านพื้นที่ไปมานั้นได้พบเห็นท่อน้ำประปาที่ชำรุด และมีน้ำรั่วไหลออกมาเป็นจำนวนมากมานานแล้ว แต่ก็เป็นคนละหมู่บ้าน และคนละตำบลกัน จึงไม่อยากที่จะเข้ามาก้าวก่ายต่อคนในพื้นที่ โดยจุดเกิดเหตุนั้นเป็นท่อน้ำที่ขุดฝังท่อแยกข้ามถนน อยู่ห่างจากปากทางศาลาเขียว ซึ่งเป็นถนนที่แยกออกมาจากถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ลงมาประมาณ 1 กม. ในเขตพื้นที่ ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
หลังพบตัวผู้สื่อข่าวจึงได้ขอแจ้งเหตุให้ทราบเพื่อที่จะได้นำเสนอไปถึงยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ได้เข้ามาดูแลแก้ไข เพราะรู้สึกเสียดายน้ำที่รั่วทิ้งมานานถึง 3 ปีแล้ว ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลานี้ตามลำคลองทุกสายในเขตพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ระดับน้ำเริ่มลดลงมาอยู่ในระดับต่ำอย่างมาก หรือมีสภาพแห้งขอดลงมาอยู่ที่ก้นคลองกันหมดแล้ว และคาดว่าอีกไม่นานชาวบ้านก็อาจจะประสบปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นในพื้นที่
วันนี้ (21 ก.พ.) นายสมบูรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้แจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบว่า ในบริเวณถนนองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เส้นทางสายศาลาเขียว-สาวชะโงก ได้มีท่อน้ำประปาซึ่งเป็นท่อแยกออกมาจากท่อเมนหลัก ข้ามถนนก่อนเข้ามาสู่บ้านเรือนของผู้ใช้น้ำได้เกิดการแตกชำรุดเสียหายมานานเกือบ 3 ปีแล้ว แต่ยังไร้หน่วยงานผู้รับผิดชอบเข้ามาทำการดูแลแก้ไข
ตลอดจนผู้นำชุมชน และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ที่มีบ้านเรือนพักอาศัยอยู่ใกล้ต่างไม่มีใครให้ความสนใจที่จะแจ้งไปยังการประปาส่วนภูมิภาคสาขาบางคล้า ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการให้บริการให้ทราบถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ตนเองตลอดจนผู้คนที่ใช้รถสัญจรผ่านพื้นที่ไปมานั้นได้พบเห็นท่อน้ำประปาที่ชำรุด และมีน้ำรั่วไหลออกมาเป็นจำนวนมากมานานแล้ว แต่ก็เป็นคนละหมู่บ้าน และคนละตำบลกัน จึงไม่อยากที่จะเข้ามาก้าวก่ายต่อคนในพื้นที่ โดยจุดเกิดเหตุนั้นเป็นท่อน้ำที่ขุดฝังท่อแยกข้ามถนน อยู่ห่างจากปากทางศาลาเขียว ซึ่งเป็นถนนที่แยกออกมาจากถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ลงมาประมาณ 1 กม. ในเขตพื้นที่ ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
หลังพบตัวผู้สื่อข่าวจึงได้ขอแจ้งเหตุให้ทราบเพื่อที่จะได้นำเสนอไปถึงยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ได้เข้ามาดูแลแก้ไข เพราะรู้สึกเสียดายน้ำที่รั่วทิ้งมานานถึง 3 ปีแล้ว ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลานี้ตามลำคลองทุกสายในเขตพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ระดับน้ำเริ่มลดลงมาอยู่ในระดับต่ำอย่างมาก หรือมีสภาพแห้งขอดลงมาอยู่ที่ก้นคลองกันหมดแล้ว และคาดว่าอีกไม่นานชาวบ้านก็อาจจะประสบปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นในพื้นที่