ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตร.สอบสวนกลาง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ พร้อมป่าไม้ ลุยป่าเขาพุ บางพระ บุกจับลักลอบตัดไม้พะยูง แต่ไหวตัวเผ่นหนีไปได้ พบไม้พะยูงที่ตัดโคนแล้ว จำนวน 20 ท่อน พร้อมอุปกรณ์ตัดไม้ และอุปกรณ์ยังชีพ
วันนี้ (19 ก.พ.) พ.ต.อ.สมโชค ตาผล ผกก.2 บก.ปทส. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยกองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่อุทยาน กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หน่วยป้องกันและรักษาป่า ชบ.1 ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบบริเวณเขาพุ หมู่ 11 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังได้รับรายงานจากสายข่าวว่า มีผู้ลักลอบขึ้นไปตัดไม้พะยูงบนเขาดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงเข้าตรวจสอบบนเขาพุ พบไม้พะยูงที่ตัดเป็นท่อนแล้ว 20 ท่อน และมีการปอกเปลือกนอกออกเหลือแต่แก่นไม้พะยูง นอกจากนั้น ยังพบเลื่อยโค้ง จำนวน 3 ตัว และอุปกรณ์ยังชีพ เช่น เปลนอน หม้อหุงข้าว น้ำเปล่า ปลากระป๋อง ขนมปัง ม่าม่า ผงชูรส ยากันยุง ฯลฯ ที่มีการเตรียมพร้อมเพื่อพักค้างแรมบนเขาด้วย
การเข้าตรวจสอบครั้งนี้ผู้ต้องหาไหวตัว และหลบหนีไปได้ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะติดตามจากอุปกรรณ์ยังชีพ และอาหารต่างๆ ที่ทิ้งไว้ว่าซื้อมาจากแหล่งไหน เพื่อหาหลักฐานติดตามผู้กระทำผิดดังกล่าวมาลงโทษต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 5 คน
พ.ต.อ.สมโชค กล่าวว่า สำหรับเขาพุแห่งนี้เป็นแหล่งที่มีไม้พะยูงมากที่สุดในภาคตะวันออก และมีการจับกุมมาแล้วหลายครั้ง จึงเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง และวางสายเพื่อคอยตรวจสอบผู้ที่จะเข้ามาลักลอบตัดไม้ดังกล่าว และครั้งนี้ก็ได้รับแจ้งจากสายข่าวจึงรีบเข้ามาดำเนินการ แต่ผู้ต้องหาได้ไหวตัวหลบหนีไปเสียก่อนจึงไม่ได้ตัวแต่อย่างใด
ด้าน นายจักรกฤษณ์ แสงกุหลาบ หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าชลบุรี 1 กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานร่วมมือเพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากผู้กระทำมีความเชี่ยวชาญ และชำนาญพื้นที่ป่ามาก และการเข้าจับกุมทุกครั้งส่วนมากจะหนีรอดไปได้ตลอด แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้วางกำลัง และสายข่าวเฝ้าระวังการลักลอบตัดไม้พะยูงตลอดเวลา
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ได้ไม้พะยูง จำนวน 20 ท่อน ซึ่งมูลค่าในประเทศไทยไม่สูงมาก แต่หากส่งออกไปยังต่างประเทศจะมีมูลค่ามหาศาล โดยครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 5 แสนบาท โดยไม้ทั้งหมดจะนำไปเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันต่อไป