พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจอยุธยา รวบ 2 หนุ่มผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุฉ้อโกงหลอกขายน้ำมันให้แก่เจ้าของปั๊มน้ำมันในราคาถูกในพื้นที่อำเภอบางปะหัน สูญเงินไป 212,160 บาท พบประวัติก่อเหตุมาแล้วหลายจังหวัด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (18 ก.พ.) ที่ สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ รอง ผบก. และ พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้แถลงกันข่าวผลการจับกุม นายธนธรณ์ นวลเพชร อายุ 32 ปี และนายปริญญา คชวงคษ์ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุฉ้อโกงหลอกขายน้ำมันให้แก่ นายสุริยะ กิจพิพัฒน์ อายุ 39 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันใน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา สูญเงินไป 212,160 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา
นายสุริยะ กล่าวว่า วันเกิดเหตุ นายธนธรณ์ ได้โทรศัพท์เข้ามาติดต่อเสนอขายน้ำมันดีเซลในราคาถูกกว่าที่เคยสั่งซื้อจากคลังน้ำมัน จึงขอสั่งซื้อ จำนวน 12,000 ลิตร เป็นเงิน 212,160 บาท โดยนายธนธรณ์ ได้ส่งหมายเลขบัญชีของธนาคารเป็นชื่อของ นายปริญา มาให้ทางระบบไลน์ตกลงกันว่าเมื่อน้ำมันถึงปลายทาง และตรวจปริมาณน้ำมันถูกต้องแล้วให้โอนเงินทันที
จนกระทั่งมีรถบรรทุกน้ำมันมาที่ปั๊มได้ตรวจสอบน้ำมัน และบิลน้ำมันพบว่าตรงกับที่ตกลงจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายธนธรณ์ ยืนยันว่าให้โอนเงินมาตามที่ตกลงกันจึงได้โอนเงินไปให้ทางอินเทอร์เน็ต หลังโอนเงินได้บอกแก่คนขับรถบรรทุกน้ำมันว่า ได้โอนเงินไปให้เรียบร้อยแล้วให้ลงน้ำมันได้ ทางคนขับรถได้โทรศัพท์กลับไปที่บริษัท พบว่า เงินยังไม่มีการโอนเข้าไปจึงไม่สามารถลงน้ำมันให้ได้ ตนจึงได้โทรศัพท์กลับไปหานายธนธรณ์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้จึงรู้ว่าได้ถูกหลอกแล้วจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายธนธรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนจบการศึกษาปริญาตรี รัฐศาสตร์ มาเปิดบริษัทธุรกิจขายส่งน้ำมันแต่ระยะหลังคลังน้ำมันมีการกำจัดโควตาน้ำมันให้แก่ปั๊มเอง ประกอบกับเศรษฐกิจไม่ดีทำให้ขาดทุนหมุนเงินไม่ทัน จึงได้ใช้ความที่เคยติดต่อซื้อขายกับคลังน้ำมันต่างๆ ในประเทศติดต่อซื้อน้ำมันแล้วหาเบอร์โทรศัพท์ปั๊มน้ำมันต่างๆ ไปหลอกเสนอขายน้ำมันในราคาถูกลิตรละ 30-50 สต. โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีตนเอง
ที่ผ่านมา ตนทำมาแล้วหลายครั้ง และเมื่อตนถูกจับก็จะทำการตกลงค่าเสียหายกับผู้เสียหายยอมความกันได้ เนื่องจากเป็นคดีฉ้อโกง แต่มาระยะหลังจึงได้เปลี่ยนวิธีการด้วยการติดต่อเสนอว่าจ้าง นายปริญญา คชวงคษ์ อายุ 18 ปี ให้เปิดปัญชี 5,000 บาท และแบ่งให้เวลาเงินถูกโอนเข้าบัญชีในราคา 35,000 บาท ล่าสุด ถูกดำเนินคดีจำนวน 7 คดี อยู่ระหว่างการดำเนินคดี และทำการชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนเงินที่ได้ก็นำไปใช้เที่ยวเตร่ และนำไปใช้เคลียร์คดีอื่นๆ ที่ก่อเหตุมาที่กำลังอยู่ในกระบวนการไกล่เกลี่ย
พล.ต.ต.สุทธิ กล่าวว่า ขอฝากเตือนไปยังเจ้าของปั๊มน้ำมันให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่จะมาติดต่อเสนอขายน้ำมันราคาถูกกว่าท้องตลาด เพราะกลุ่มมิจฉาชีพจะใช้ความรู้ความชำนาญในการติดต่อซื้อขายน้ำมันมาหลอกได้ และคดีลักษณะนี้เป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้ เมื่อถูกจับกุมก็จะชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย จึงฝากให้ระมัดระวังจะได้ไม่เสียเวลา และสูญเสียทรัพย์สิน