ร้อยเอ็ด - ญาติ จ.ส.อ.จิตอาสาผูกคอตายเรียกร้อง สสส.ตรวจสอบข้อมูลโครงการฯ ที่ผู้ตายเสนอของบได้มีการสั่งจ่ายแล้วหรือไม่หรือสั่งจ่ายในชื่อใคร หลัง สสส.ปฏิเสธไม่มีในชื่อเสนอทำโครงการพัฒนาชุมชน เมียเผยเงินที่สามีสำรองจ่ายใช้ในโครงการ สสส.มากถึง 3 แสนบาทแต่เบิกไม่ได้
จากกรณี จ.ส.อ.ชาญชัย สกุลรักษ์ อายุ 54 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ข้าราชการเออร์ลีรีไทร์ จิตอาสาทำงานโครงการช่วยเหลือชุมชน ให้แก่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. มีอาการเครียดจัด เพราะสำรองเงินจ่ายในโครงการฯ แต่กลับเบิกเงินจาก สสส.ไม่ได้ จนเป็นหนี้สินจำนวนมาก ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต โดยทิ้งจดหมายฝากญาติ ร้อง คสช.ว่า “ถูก ...?... โกง”
ล่าสุด วันนี้ (18 ก.พ.) นายยศพงศ์ พิมพ์ดี รองประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดร้อยเอ็ด ลุงของ จ.ส.อ.ชาญชัย กล่าวว่า ขณะนี้ญาติทุกคนติดใจต้นเหตุของการที่ผู้ตายคิดสั้นผูกคอตาย โดยอยากให้ สสส.ตรวจสอบเงื่อนงำข้อเท็จจริงที่มีการทำเรื่องของบจาก สสส.เพื่อทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนท่านครแล้วเบิกเงินไมได้ จนต้องใช้เงินตนเองและหยิบยืมคนอื่นไปก่อนเพื่อนำไปใช้ในโครงการ
หลังจาก จ.ส.อ.ชาญชัยเสียชีวิต สสส.แจ้งผลตรวจสอบข้อมูลแล้วระบุว่าไม่เคยมีชื่อผู้ตายเสนอเรื่องไปของบประมาณและโครงการใดๆ ในชื่อของ จ.ส.อ.ชาญชัย สกุลรักษ์ ส่งไปที่ สสส.เลย
นายยศพงศ์กล่าวว่า ตนต้องการให้ สสส.ตรวจสอบให้ชัดเจนว่ามีการเสนอชื่อในนามคนอื่นหรือเปล่า และอาจจะมีการอนุมัติเงินมาแล้วแต่เป็นชื่อคนอื่น แล้วมีการโกงเงินไปหรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบการทำงานและทำโครงการไปนั้น ผู้ตายทำร่วมกับ อสม.คนหนึ่งที่เป็นผู้หญิงชื่อ “ตั๊ก” หรือนางอมรรัตน์ กุลกิตตรี อสม.คุ้มวัดกลางในเมืองร้อยเอ็ด ว่าเป็นคนได้รับการอนุมัติเงินมาแล้วแต่ไม่ยอมให้ จ.ส.อ.ชาญชัย จนเป็นต้นเหตุของผูกคอตาย
“พวกเราบรรดาญาติๆ ต้องการให้เกิดความชัดเจนว่าได้รับอนุมัติเงินแล้ว หรือว่ายังไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะเรื่องนี้ทราบว่าผู้ตายทำโครงการไปตั้งแต่ปลายปี 2557 แล้ว” นายยศพงศ์กล่าว
สำหรับศพ ของ จ.ส.อ.ชาญชัย นั้น ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดสระแก้ว ต.ในเมือง อ.เมือง ร้อยเอ็ด ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติๆ
ในขณะที่นางอภัสสร สกุลรักษ์ อายุ 49 ปี ภรรยาผู้ตายกล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดชื่อโครงการว่าชื่ออะไร และเสนอขอเงินจาก สสส.ไปเท่าไร เพราะสามีไม่เคยเล่าให้ฟัง เพราะสามีไม่เคยเล่าให้ฟัง ทราบเพียงแต่ว่า โครงการนี้สามีทำเรื่องเสนอไปตั้งแต่ปลายปี 2557 โดยทำโครงการร่วมกันกับ อสม.หญิงคนหนึ่งที่สามีบอกว่าชื่อตั๊ก นางอมรรัตน์ กุลกิตตรี ที่เป็น อสม.คุ้มวัดกลางมิ่งเมือง ตนไม่แน่ใจว่าโครงการนี้ได้รับการอนุมัติแล้วหรือไม่ หรือว่าได้รับการอนุมัติแล้วแต่เป็นชื่อของ อสม.คนนั้นหรือเปล่า แต่สามีกลับไม่ได้เงิน ทั้งๆที่ใช้เงินตัวเองสำรองไปก่อน บางส่วนได้หยิบยืมเงินคนอื่นมาใช้ล่วงหน้าไปแล้ว เท่าที่ประมาณการได้ในขณะนี้ น่าจะรวมเป็นเงินกว่า 300,000 บาท
นางอภัสสรกล่าวอีกว่า ตนต้องการให้ สสส.พนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างละเอียด เพราะตนไม่สามารถตรวจสอบเองได้ ทั้งนี้หลังจากสามีผูกคอตาย อสม.ที่ร่วมทำโครงการด้วยกันไม่เคยมาปรากฏตัว และติดต่อก็ไม่ได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับข้อความจดหมายน้อยที่ จ.ส.อ.ชาญชัย เขียนทิ้งไว้ก่อนผูกคอตาย มีด้วยกัน 3 แผ่น แผ่นแรกมีความว่า 09.00 น. - “ขอโทษทุกคนที่สร้างความลำบากให้ ขอขอบคุณในความดีของภรรยา ...?... ก็โกงไม่ยอมจ่ายเงิน ทำให้เป็นหนี้สินมากมาย โกงทั้งประเทศ ขอโทษลูกทั้ง 2 คน (สู้ต่อไป)” ลงนาม จ.ส.อ.ชาญชัย สกุลรักษ์
ในท้ายกระดาษจดหมายแผ่นแรก มีข้อความต่ออีกว่า เรียน คสช. รัฐบาลประเทศไทย ให้ความเป็นธรรมด้วย คอร์ รัปชัน มีอีกมาก (โดยเฉพาะ...?..)
จดหมายแผ่นที่ 2 มีความว่า “การจากไปในครั้งนี้ กระผมกราบขอโทษและขออภัยคุณยายอ้ม พิมพ์ดี เป็นอย่างสูง กราบขออภัยคุณพ่ออำนวย อายุวัฒน์ คุณแม่ยุ่น อายุวัฒน์ กระผมไม่สามารถทำงานต่อได้แล้ว ขอโทษกองสาธารณสุข เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ไม่สามารถเสนอผลงานให้อีกแล้ว เพราะกลุ่ม ..?.. โกงผม? ถามให้ด้วยใครทำ?” ลงชื่อ จ.ส.อ.ชาญชัย สกุลรักษ์
ขณะที่ จดหมายแผ่นที่ 3 ความว่า “หากผมได้เงินคืนแล้ว จาก ..?. หัวหน้าโครงการฯ ใช้หนี้ให้ผมด้วย ทนายก็เอาเงินตลอด ศาลเรียกเก็บเงินตลอด เงินไม่มีใช้ สุดท้ายผมก็เป็นอย่างนี้ กราบขอโทษ เบอร์ ... ธ.กรุงไทย 0938.... เบอร์ ปราณี 0985... เบอร์ทนาย... 08856 เบอร์อยู่ในโทรศัพท์ ครับ ขอบคุณ”
