xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ สั่งเร่งป้องกันเหตุสลดถนนกำแพงเพชร หนุ่มพม่าเศร้าเสียทั้งพ่อ-น้องสาว-น้องชาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กำแพงเพชร - ผู้ว่าฯ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางป้องกันอุบัติเหตุสลดบนถนนเมืองกล้วยไข่ที่อยู่ระหว่างปรับปรุง หลังเกิดเหตุรถบัส 2 ชั้นแซงไม่พ้นชนรถพ่วง 18 ล้อ ดับ 6 ศพ เจ็บอีกระนาว หนึ่งในเหยื่อชาวพม่าสุดเศร้ากำลังพาครอบครัว 9 ชีวิตกลับบ้าน ต้องเสียทั้งพ่อ-น้องสาว และน้องชายที่กำลังจะบวช

วันนี้ (16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดอุบัติเหตุรถบัส 2 ชั้นที่นำผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวจากชลบุรีมุ่งหน้าไปแม่สอด ชนรถพ่วง 18 ล้อขนน้ำตาลทรายมาเต็มคัน กลางถนนสายพหลโยธินขาล่อง หมู่ที่ 1 บ้านถนนงาม อ.คลองขลุง เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา

ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 6 ราย คือ นายวิรัตน์ ชัยทอง อายุ 50 ปี (คนขับรถทัวร์), นายไพทูรย์ สิทธิ์การ อายุ 56 ปี (คนขับรถพ่วง), นายวสันต์ สิทธิ์การ อายุ 34 ปี (ผู้โดยสารรถพ่วง), นายโคโคไนท์ ชาวพม่า (ผู้โดยสารรถทัวร์), นายชีปะ ชาวพม่า (ผู้โดยสารรถทัวร์) และนางสาวอีเอ่อ ชาวพม่า (ผู้โดยสารรถทัวร์)

นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 7 ราย บาดเจ็บปานกลาง 25 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 2 ราย ซึ่งส่งรักษาในโรงพยาบาลกำแพงเพชรจำนวน 14 ราย รักษาโรงพยาบาลคลองขลุง จำนวน 10 ราย และส่งรักษาโรงพยาบาลทรายทองวัฒนา อีกจำนวน 9 ราย เบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บปานกลางและเล็กน้อยเดินทางกลับบ้านได้แล้ว

ส่วนรถบัสปรับอากาศ 2 ชั้น สายตราด-แม่สอด หมายเลขทะเบียน 10-2033 ตราด และรถพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-0677 นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกลากไปจอดไว้ที่หน้า สภ.คลองขลุง ซึ่ง พ.ต.ต.ยุทธนา พุกสุข พนักงานสอบสวน สภ.คลองขลุง, เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดฯ, แขวงการทางฯ, เจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้ประสบภัยจังหวัดกำแพงเพชร ได้ถ่ายภาพ พร้อมหารายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อทำรายงานและสำนวนประกอบคดี

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุว่า ทราบชื่อคนขับรถบัสคือ นายวิรัตน์ ชัยทอง อายุ 50 ปี ส่วนสาเหตุการชนเกิดจากความประมาทของคนขับรถบัสโดยสารที่แซงไม่พ้นกินเลนไปชนรถพ่วงดังกล่าว และมีผู้โดยสารเพศหญิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลคลองขลุงเพิ่มอีก 1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 6 รายแล้ว

นายประวิทย์ ตริวิวัฒน์กุล ผอ.แขวงทางหลวงกำแพงเพชร ที่นำนายช่างแขวงการทางลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางถนนพหลโยธิน เปิดเผยว่า เส้นทางช่วงที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเส้นทางที่เปิดให้รถวิ่งสวนทางกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดป้ายเตือน และมีป้ายบอกเป็นระยะว่าห้ามแซง พร้อมทั้งมีแผ่นสะท้อนขอบถนนให้เห็นชัดในเวลากลางคืน แต่ก็ยังเกิดเหตุสลดขึ้น

ซึ่งนายธานี ธัญญาโภชน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร จึงได้กำชับและประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดฯ และภาคีเครือข่ายด้านอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มมาตรการป้องกันดังนี้

1. มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ จัดทำแผนและมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนฯ และแจ้งให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทราบและนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2559

2. ให้แจ้งมาตรการและแผนฯ ดังกล่าวให้สถาบันการศึกษาทุกแห่งและอำเภอทุกอำเภอเพื่อทราบและถือปฏิบัติ โดยการประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบในการบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก 3 หน่วย คือ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง

3. มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ จัดประชุมฯ เป็นประจำทุกเดือน เพื่อสรุปข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทั้งจำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุและญาติให้ถูกต้อง เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการจังหวัดฯ ต่อไปเป็นประจำทุกเดือน

4. จัดโครงการอบรมให้ความรู้แก่สถานศึกษาฯ เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกและสร้างความตระหนัก จนเป็นนิสัยที่ดีต่อไปอย่างยั่งยืน

5. จัดหางบประมาณและรางวัลให้แก่ทุกหน่วยที่มีผลการดำเนินงานเข้มแข็งและโดดเด่น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ฯ และชื่อเสียงแก่หน่วยต่อไป

ด้านนางลัดดา โพตุ้ย ผอ.คปภ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า รถบรรทุกพ่วงและรถทัวร์มีประกันภัยประเภทที่ 3 ผู้ขับขี่ เบื้องต้นถ้ายังไม่ได้พิสูจน์ว่าใครถูกใครผิดจะได้รับเงินชดเชยรายละ 35,000 บาท ส่วนผู้โดยสารจะได้รับรายละ 200,000 บาท

ขณะที่นายอนาย อายุ 27 ปี ชาวพม่า หนึ่งในผู้ประสบเหตุ เปิดเผยว่า ทำงานก่อสร้างอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ได้เดินทางกลับมาพร้อมกับครอบครัวจำนวน 9 คน จนกระทั่งเดินทางมาถึงระหว่างจังหวัดกำแพงเพชรก็มาประสบอุบัติเหตุทำให้ต้องสูญเสียพ่อ น้องสาว และน้องชายที่กำลังจะบวช รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายเอกพจน์ พรหมมา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 315 ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย พนักงานต้อนรับบนรถบัสปรับอากาศ 2 ชั้น เปิดเผยว่า ได้รับผู้โดยสารคนไทย และพม่าจากจังหวัดระยอง เปลี่ยนคนขับที่นวนคร จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเดินทางมาถึงกำแพงเพชรได้แวะพักกินข้าวที่จุดบริการ บขส.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี ซึ่งตนก็นอนเบาะข้างคนขับมา จนมารู้ตัวอีกครั้งก็ประสบอุบัติเหตุกระเด็นออกจากรถได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก และปากแตก แต่เดินไหว มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

“ทำงานต้อนรับรถทัวร์ได้ 3 เดือนก็มาเกิดเหตุ กลับบ้านคราวนี้จะเลิกทำงานนี้แล้ว”
กำลังโหลดความคิดเห็น