หนองบัวลำภู - เพลิงไหม้วอดอาคารเรียนขนาด 7 ห้องเรียน ของโรงเรียนบ้านหนองอุ ต.หนองบัวใต้ อ.ศรีบุญเรือง โชคดีไม่มีคนเจ็บ สาเหตุเบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.นพวัฒน์ ธาตุชนะ พงส.สภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนของโรงเรียนบ้านหนองอุ ต.หนองบัวใต้ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานไปยัง อบต.หนองบัวใต้ และ อบต.ใกล้เคียง นำรถดับเพลิงกว่า 10 คันเข้าควบคุมเพลิง
อาคารที่เพลิงกำลังลุกไหม้ดังกล่าวมีลักษณะเป็นอาคารเรียน 2 ชั้น ขนาด 7 ห้องเรียน ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านต่างก็ช่วยกันฉีดน้ำสกัดกั้นเพลิง และขนสิ่งของพร้อมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนออกมาเท่าที่จะนำออกมาได้ ท่ามกลางเพลิงโหมลุกไหม้ตัวอาคารอย่างรวดเร็ว
จนเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น พบตัวอาคารเรียนซึ่งก่อสร้างมาร่วม 40 ปี เสียหายทั้งหลัง อุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์สำนักงาน ห้องเรียน ห้องพักครู ห้องคอมพิวเตอร์ และสื่อการเรียนการสอน เช่น สมุดหนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ ได้รับความเสียหายทั้งหมด
จากการสอบถาม นายประวิทย์ เหลาเพ็ง ครูโรงเรียนบ้านหนองอุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ขณะเพลิงกำลังลุกไหม้ กล่าวว่า โรงเรียนบ้านหนองอุเปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงชั้นม.3 มีนักเรียนรวมทั้งสิ้น 115 คน ครู 15 คน
ขณะเกิดเหตุตนเอง และนักเรียนกำลังดูการซ้อมกีฬานักเรียนเตรียมการแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียน ด.ช.ชรายุทธ ชาญประเสริฐ์ นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านหนองอุ พบเห็นควันไฟกำลังลุกไหม้ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารเรียน จึงมาบอกครู และขับรถไปบอก อปพร.ของ อบต.หนองบัวใต้ ซึ่งอยู่ใกล้โรงเรียนนำรถดับเพลิงรีบรุดมาสกัดเพลิง
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีรถดับเพลิงจาก อบต.นากอก เทศบาลตำบลโนนสูงเปลือย เทศบาลตำบลจอมทอง และ อบต.กุดธาตุ จากจังหวัดขอนแก่น รุดมาช่วยดำเนินการดับเพลิง ในส่วนของความเสียหายหนักเห็นจะเป็นห้องคอมพิวเตอร์ อาคารสำนักงานซึ่งอยู่อาคารชั้นล่างได้รับความเสียหายทั้งหมด
นักเรียนที่เรียนอยู่ชั้นบนของอาคารเรียนเป็นนักเรียนชั้น ม.1-3 ร่วม 50 คน ไร้ที่เรียน และชั้นล่างห้องพักครูเป็นนักเรียนชั้นอนุบาล ก็ไม่สามารถที่จะใช้เรียนได้เช่นเดียวกัน
ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากเป็นอาคารเรียนเก่าที่สร้างมาแล้ว 38 ปี ในส่วนที่เป็นไม้พอมีประกายไฟเกิดขึ้นทำให้ง่ายต่อการติดไฟ ก่อนจะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ
แต่โชคดีเนื่องจากยังมีเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านช่วยกันควบคุมเพลิงไว้ และไม่ลุกลามเสียหายไปมากกว่านี้อีก ซึ่งต่อไปจะให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบโดยละเอียดต่อไป