สุรินทร์- ชาวบ้าน อ.ศีขรภูมิ เมืองช้างผวา ฝูงหมาดำออกไล่ล่ากัดกินตับไตไส้พุงลูกวัว-ควายกลางดึก ตายแล้ว 7 ตัว ตัวที่ 8 อาสากู้ชีพช่วยชีวิตไว้ได้ทัน เผยพบฝูงหมาดำ 6-7 ตัวออกล่าวัวควายที่ล่ามไว้ตามทุ่งนาใกล้หมู่บ้าน เชื่อเป็น “หมาผี” ขณะสมาชิก อบต.และอาสากู้ชีพยันเป็นฝูงหมาดำตัวขนาดใหญ่น่ากลัวมาก
วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ชีพคาลาแมะ อ.ศีขรภูมิ ว่ามีฝูงสุนัขลึกลับสีดำตัวขนาดใหญ่กัดควายชาวบ้าน ชื่อ นางวาง ทองมันปู อายุ 48 ปี บ้านหัวเข่า ต.คาลาแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ
นายพัชรพล เพ็งพินิช อายุ 44 ปี อาสากู้ชีพและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลคาละแมะ (อบต.) เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 21.030 น. วันที่ 8 ก.พ. หน่วยกู้ชีพกับสมาชิก อบต.อยู่ที่สำนักงานหน่วยกู้ชีพคาละแมะ 1669 ได้ยินเสียงหมาเห่าและส่งเสียงร้อง ฟังดูเหมือนมีคนจะทำร้ายหรือฆ่าสุนัข อาสากู้ชีพกับ สมาชิก อบต.จำนวน 4 คนเลยชวนกันออกไปดู เพื่อจะได้ห้ามปราม ซึ่งที่จุดเกิดเหตุนั้นห่างจากหน่วยกู้ชีพ ไปประมาณ 200 เมตร
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุกลับไม่ใช่อย่างที่คิด แต่พบเป็นฝูงสุนัขหรือหมาสีดำตัวขนาดใหญ่ ไม่ต่ำกว่า 6 - 7 ตัว กำลังไล่กัดลูกควายอยู่แต่ลูกควายยังไม่ตาย ทุกคนที่ไปต่างหาไม้มาไล่แต่แปลกมากหมาเหล่านั้นไม่กลัว กลับยืนจ้องมองพวกตนเหมือนจะมาทำร้าย บางคนแทบจะวิ่งหนีเพราะกลัวฝูงหมาดำตัวขนาดใหญ่จะกรูกันเข้ามาทำร้าย และในที่สุดได้พากันไล่หมาพวกนั้นหนีไปได้ ก่อนเข้าไปดูลูกควาย อายุ 1 เดือน ถูกกัดที่ลำคอ ขา และท้อง ไส้ทะลักออกมา นอนหายใจรวยรินอยู่
หลังจากนั้นพวกตนได้ไปตามเจ้าของควายในหมู่บ้านเพราะเจ้าของควายผูกควายไว้ที่นา ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 400 เมตร พอเจ้าของควายมาเจอได้นำควายกลับเข้าหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างเชื่อว่า เป็น “หมาผี” หรือ ปอบ มากัดกินเครื่องใน ตับไตไส้พุง ลูกควาย
โดยก่อนหน้านี้ช่วงวันที่ 6-7 ก.พ.ที่ผ่านม มีวัวควายของชาวบ้านในหมู่บ้านหัวเข่าและหมู่บ้านใกล้เคียง ได้ถูกหมากัดไปแล้วหลายตัว และกรณีลูกควายล่าสุดเป็นตัวที่ 8 แล้ว โชคดีอาสาสมัครกู้ชีพช่วยไว้ได้ทัน และ ชาวบ้านต่างพากันสงสัยว่า วัว ควายทุกตัวที่ถูกกัดตาย นั้นล้วนมีสภาพ เครื่องใน ตับไตไส้พุง หายไปหมดเหมือนกัน
นอกจากนี้ ยังมีเสียงเล่าลือกันในหมู่ชาวบ้านว่า ตอนกลางคืนก่อนถึงวันพระหนึ่งวันจะเห็นไฟดวงขนาดใหญ่มีแสงวูบวาบอยู่ตามกลางทุ่งนา ไม่ทราบเป็นแสงอะไร ยิ่งส่งผลให้ชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์หวาดกลัวกันไปใหญ่ ทำเอาในช่วงตอนกลางคืนแทบไม่ใครที่กล้าออกบ้านไปไหน