บุรีรัมย์ - มิจฉาชีพทำเนียนหลอกเป็นเจ้าของควายที่ผูกเลี้ยงไว้กลางทุ่ง ก่อนขายให้พ่อค้าเร่ร่วม 4 ตัว เป็นเงินร่วม 80,000 บาท ก่อนเชิดเงินหนีลอยนวล ด้านพ่อค้าแสดงความบริสุทธิ์ใจนำควายคืนให้คุณยายเจ้าของตัวจริง แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมสอบขยายผลหาข้อเท็จจริงหวั่นทำเป็นขบวนการ
วันนี้ (13 พ.ย. 58) เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี เข้าไปตีสนิทกับนางเกิด จันทร์ดี อายุ 76 ปี ชาวบ้านบ้านหนองขาย่าง ม.6 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขณะเลี้ยงควายจำนวน 6 ตัวอยู่กลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ก่อนทำทีหวังดีขับขี่จักรยานยนต์ไปส่งยายที่บ้าน จากนั้นได้หวนกลับไปยังทุ่งนาแล้วอ้างตัวเป็นลูกชายของยายเพื่อหลอกขายควายของยายที่ผูกไว้ในทุ่งนาจำนวน 4 ตัว เป็นตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมีย 3 ตัว ให้แก่พ่อค้าเร่ หรือนายฮ้อย ที่มาตระเวนรับซื้อวัวควายตามหมู่บ้าน โดยครั้งแรกได้เรียกราคา 90,000 บาท ก่อนจะต่อรองและตกลงซื้อขายกันในราคา 77,000 บาท จากนั้นคนร้ายยังทำเนียนเรียกชาวบ้านที่ผ่านไปมาให้มาช่วยไล่ต้อนควายทั้ง 4 ตัวขึ้นรถหกล้อให้พ่อค้าโดยไม่มีใครสงสัยหรือทักท้วงว่าชายคนดังกล่าวไม่ได้เป็นเจ้าของควายตัวจริง
กระทั่งพ่อค้าได้นำควายกลับไปบ้านที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ขังไว้ในคอก ทั้งหาหญ้ามาให้กินด้วย เมื่อนางเกิดทราบว่าควายของตัวเองหายจึงแจ้งกำนันและผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยตามหา จนมาทราบภายหลังว่านายโท เพิ่มประโคน อายุ 47 ปี เป็นคนนำรถหกล้อมาบรรทุกควายของยายไปจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
ต่อมานายโท พ่อค้าเร่ที่อ้างว่าถูกหลอกให้ซื้อควายและถูกเชิดเงินไปนั้นได้เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ขโมยควายไป และได้นำควายทั้ง 4 ตัวมาคืนให้แก่ยายเกิดเจ้าของควายด้วยดี โดยมีนายกนกศักดิ์ เสงี่ยมศักดิ์ กำนัน ต.เสม็ด และนายพุทธ นิกรรัมย์ ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสักขีพยานในการส่งมอบควายคืน สร้างความดีใจให้แก่ยายถึงกับน้ำตาคลอเพราะไม่คิดว่าจะได้ควายคืนแล้ว
ส่วนกรณีที่นายโทอ้างว่าถูกชายที่หลอกให้ซื้อควายเชิดเงินไปนั้น ร.ต.ท.ชาญณรงค์ ไชยสาคร ร้อยเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้แนะนำให้ไปแจ้งความตามขั้นตอน อย่างไรก็ตามจะทำการสวนสวนอีกครั้งว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะเมื่อเดือนที่ผ่านมาเคยมีควายพันธุ์บรามันห์ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เลี้ยงไว้ในคอกท้ายหมู่บ้านดังกล่าวถูกลักขโมยไปเช่นกัน หากพบว่าเป็นกลุ่มขบวนการเดียวกัน หรือใครมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ยังได้เตือนชาวบ้านให้ดูแลวัวควายที่เลี้ยงไว้ใกล้ชิดมากขึ้น และหากจะมีการซื้อขายก็ควรจะทำบันทึกการซื้อขายไว้เป็นหลักฐานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก