หมู่บ้านเลี้ยงควาย จ.อุบลฯ จัดเวรยามเฝ้าระวัง หลังโจรขโมยวัวควายออกอาละวาด

อุบลราชธานี - หมู่บ้านเลี้ยงวัวควายของจังหวัดอุบลราชธานี เข้มจัดเวรยามเฝ้าระวังโจรเข้ามาขโมยวัวควายหลังฤดูเก็บเกี่ยว หลังมีข่าวโจรลักขโมยวัวควายหลายจังหวัดภาคอีสาน เหตุราคาเนื้อวัว-เนื้อควายแพงขึ้นกว่าเท่าตัว

หลังมีข่าวโจรขโมยวัวและควายในหลายพื้นที่ของจังหวัดภาคอีสาน กลุ่มชาวบ้านผู้เลี้ยงวัวเลี้ยงควายบ้านโนนเค็ง หมู่ 4 ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี หมู่บ้านที่ชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้านมีอาชีพเลี้ยงวัวและควายขายเป็นอาชีพเสริมหลังฤดูการทำนา มีวัวควายอยู่ในความดูแลเกือบพันตัว จึงต้องรวมตัวกันเฝ้าระวังเมื่อเกิดข่าวมีโจรขโมยวัวขโมยควายเกิดขึ้น

นายสุนันท์ ประทุมแพง อายุ 47 ปี ชาวบ้านประกอบอาชีพเลี้ยงควายขายมากว่า 30 ปี และมีควายอยู่ในความดูแล 15 ตัว กล่าวว่า หลังการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ชาวบ้านจะปล่อยวัวควายไปกินหญ้า หรือกินฟางข้าวที่เหลืออยู่ตามทุ่งนา บางส่วนนำไปเลี้ยงในที่สาธารณประโยชน์ของหมู่บ้าน ในอดีตไม่ต้องเฝ้าระวังมากเพราะราคาวัวควายไม่สูงมาก แต่ปัจจุบันวัวและควายเป็นที่ต้องการของตลาด โดยวัวและควายที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป มีราคาซื้อขายเฉลี่ยที่ตัวละ 35,000-45,000 บาท หรือราวกิโลกรัมละ 100-110 บาท เพื่อส่งเข้าโรงฆ่าในจังหวัดภาคอีสาน จังหวัดภาคกลาง และบางส่วนถูกส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงมีกลุ่มโจรขโมยวัวขโมยควายออกอาละวาด

สำหรับแนวทางการป้องกันนั้น ชาวบ้านโนนเค็งจะช่วยกันสอดส่องดูแลคนแปลกหน้า หากพบเห็นมีลักษณะเข้ามาดูลาดเลาในหมู่บ้านจะแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายให้ช่วยกันระมัดระวัง เพราะเมื่อสบโอกาสโจรก็จะนำรถมาใส่วัวควายออกไปจากหมู่บ้านในเวลากลางดึก บางครั้งต้องมีจัดเวรยามช่วยกันเฝ้าระวังกันทั้งหมดหมู่บ้าน ทำให้หลายปีที่ผ่านมาโจรไม่กล้าเข้ามาลักขโมยวัวควายในหมู่บ้าน เพราะชาวบ้านไม่เปิดโอกาสให้ลักขโมยได้โดยง่าย แต่ในช่วง 2-3 ปีนี้ ราคาเนื้อวัวเนื้อควายสูงขึ้นจากเดิมกว่าเท่าตัว ชาวบ้านจึงต้องระวังมากขึ้น