xs
xsm
sm
md
lg

เทศบาลเชียงใหม่ลุยตรวจสารปนเปื้อนอาหารสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงตรุษจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นำ จนท.เดินตลาดวโรรส ออกรณรงค์พร้อมสุ่มตรวจสอบสารปนเปื้อนในอาหารสดและอาหารปรุงสุก รวมทั้งขนมไหว้เจ้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคที่เลือกซื้อของเซ่นไหว้ในช่วงตรุษจีน เบื้องต้นพบไร้ปัญหา

วันนี้ (5 ก.พ. 59) ที่ตลาดวโรรส ในตัวเมืองเชียงใหม่ นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นำเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ออกรณรงค์และตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค โดยได้ทำการตรวจสอบความสะอาดของร้านค้าและแผงขายต่างๆ พร้อมทั้งทำการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารทั้งอาหารสด และอาหารปรุงสุก รวมทั้งขนมไหว้เจ้าต่างๆ เพื่อทำการตรวจสอบหาสารปนเปื้อนที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งเบื้องต้นไม่พบว่ามีการปนเปื้อนเกินมาตรฐานความปลอดภัย

นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่กล่าวว่า จากการออกรณรงค์และตรวจสอบอาหารที่มีการวางจำหน่ายในครั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยได้การตรวจสอบสารปนเปื้อนในอาหาร เนื่องจากปัจจุบันอาหารที่วางจำหน่ายมาจากแหล่งผลิตหลายแหล่งโดยเฉพาะอาหารปรุงสุก และขนมไหว้เจ้า ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค

ทั้งนี้ ผลจากการที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างนำมาตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีอาหารรายการใดที่มีสารปนเปื้อนเกินกว่ามาตรฐาน

นอกจากนี้ นายทัศนัยบอกด้วยว่า ในโอกาสนี้ได้ทำการสำรวจราคาสินค้าด้วย พบว่าหลายชนิดปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น ไก่สดทั้งตัวพร้อมเครื่องใน จากเดิมกิโลกรัมละ 60 บาท ปรับขึ้นเป็น 65 บาท ขณะที่ขนมไหว้เจ้ายังไม่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเนื้อสัตว์นั้นคาดว่าน่าจะมีการปรับราคาสูงขึ้นเป็นการชั่วคราวเท่านั้น โดยเมื่อผ่านพ้นช่วงเทศกาลตรุษจีนไปแล้ว ราคาน่าจะกลับสู่ภาวะปกติ

ขณะที่จากการสอบถามกลุ่มผู้ค้าในตลาดวโรรสบอกว่า บรรยากาศการซื้อขายในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้คึกคักกว่าช่วงปกติ แต่ทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยชาวไทยเชื้อสายจีนยังคงออกมาจับจ่ายเลือกซื้อของ ทั้งหมู เป็ด ไก่ ขนมมงคลต่างๆ และกระดาษเงินกระดาษทอง เพื่อนำไปประกอบพิธีเซ่นไหว้เช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการลดปริมาณลงบ้างและเลือกซื้อเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นซึ่งเป็นผลมาจากที่ราคาสินค้ามีการปรับสูงขึ้นจากปีที่แล้ว 10-20% ทำให้มีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากกว่าเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น