ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ปคม.” เดินสายให้ความรู้สถานประกอบการกลุ่มเสี่ยงค้าประเวณีเด็กต่ำกว่า 18 ปี ห่วงพื้นที่ติดชายแดนแรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามาค้าประเวณีปราบยาก ล่าสุดตำรวจโคราชล่อซื้อรวบแก๊งแม่เล้าค้าประเวณีเด็ก พบเหยื่อ 3 ราย อายุต่ำสุดแค่ 14 ปี เผยเลี่ยงถูกจับไม่ค้ากามให้คนในท้องถิ่น
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (29 ม.ค.) ที่โรงแรมสบายโฮเทล อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อนุสรณ์ นุตสถิต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการ “สิบแปด (18) ต้องห้าม เพื่อขจัดการค้าประเวณีเด็ก” โดยมี พ.ต.อ.ธนรัฐ รุ่งโรจน์ดี ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผกก.3 บก.ปคม) ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานสรุปสถานการณ์ ซึ่งมีผู้ประกอบการสถานบันเทิง ร้านค้า ร้านอาหาร จ.นครราชสีมา เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการกลุ่มเสี่ยง มีความรู้ความเข้าใจถึงกฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรงและพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงในการกระทำความผิด รวมทั้งตระหนักถึงผลกระทบทางสังคมที่ตามมาจากการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการนำเด็กมาค้าประเวณี และปรับเปลี่ยนทัศนคติของกลุ่มผู้ใช้บริการในสถานบริการกลุ่มเสี่ยง ทั้งยังมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ จุดประกายและกระตุ้นทุกภาคส่วนให้ช่วยกันขจัดการค้าประเวณีเด็กให้หมดไปจากสังคมไทย ตามนโยบายของรัฐบาล
พล.ต.อนุสรณ์ นุตสถิต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากสถิติข้อมูลคดีการค้ามนุษย์ของศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า คดีค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นของประเทศไทย ช่วงปี 2553 จนถึงปัจจุบันนั้น มีการค้ามนุษย์ในรูปแบบของการค้าประเวณี ถึงร้อยละ 76.98 ของคดีค้ามนุษย์ทั้งหมด และภายในจำนวนนี้เป็นการค้าประเวณีเด็กหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีสูงถึงร้อยละ 82.92 แม้มีนโยบายที่ในการปราบปรามอย่างหนักสมํ่าเสมอและมุ่งเน้นให้ครอบคลุมขบวนการผู้กระทำความผิดก็ตาม แต่ยังพบว่ายังมีการกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุสำคัญเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจของผู้ประกอบการกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งการขาดความตระหนักถึงผลกระทบต่อตนเองและสังคมที่ตามมาจากการเข้าไปมีส่วนหนึ่งของขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งการปราบปรามจะต้องอาศัยความร่วมมือกันทุกภาคส่วน
ในส่วนของทหารได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมในการดำเนินการทุกพื้นที่ จากสถิติพบว่าพื้นที่ จ.นครราชสีมามีปัญหาดังกล่าวค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่พบมากในจังหวัดตามแนวชายแดน ซึ่ง ปคม. ได้จัดการอบรมในโครงการดังกล่าวในพื้นที่ภาคอีสานรวม 8 จังหวัดได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี, จังหวัดศรีสะเกษ, จังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดขอนแก่น, จังหวัดร้อยเอ็ด, จังหวัดหนองคาย และจังหวัดอุดรธานี
ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านขุนทด พร้อมชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ได้ผู้ต้องหา 3 ราย คือ นางปราณี เข็มมะลัง และ น.ส.พัชรี คมขุนทด น.ส.วิไล ใยอิ้ม และเหยื่อค้ามนุษย์ รวม 3 ราย คือ 1. ด.ญ.ไพรินทร์ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี 2. น.ส.กิตติยา (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และ 3. น.ส.กฤษยากร (นามสมมติ) อายุ 18 ปี จับกุมได้ที่หอพักบ้านป้า เลขที่ 99/1 หมู่ที่ 12 อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนสืบสวนร่วมจับกุมผู้กระทำความผิดคดีร่วมกันเป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี ที่หอพักบ้านป้าในเขต ต.ด่านขุนทด แต่เนื่องจากผู้กระทำความผิดไม่รับลูกค้าในพื้นที่ซึ่งยากต่อการจับกุม จึงให้สายลับติดต่อล่อซื้อประเวณีเด็กจนสามารถจับกุมได้ดังกล่าว