เชียงราย - สพป.เชียงราย เขต 4 อนุมัติให้โรงเรียนบ้านห้วยคุ ชายแดนเวียงแก่น ติด สปป.ลาว-ดอยผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า หยุดการเรียนการสอนยาวถึงสิ้นเดือน กลับมาเปิดอีกครั้ง 1 กุมภาฯ หลังสภาพอากาศยังหนาวเหน็บ จนถึงขั้นมีน้ำค้างแข็งมาแล้ว
วันนี้ (27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้อุณหภูมิทั่ว จ.เชียงรายจะเพิ่มสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส แต่สภาพอากาศยังคงหนาวเย็น ล่าสุดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 ได้อนุมัติให้โรงเรียนบ้านห้วยคุ ม.8 ต.ปอ อ.เวียงแก่น ชายแดนไทย-สปป.ลาว หยุดทำการเรียนการสอนเป็นกรณีพิเศษเป็นระยะเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 27-29 ม.ค.นี้แล้ว และเนื่องจากช่วงปลายเดือนคาบเกี่ยวกับวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ด้วย จึงทำให้โรงเรียนมีกำหนดจะกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนในวันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ พื้นที่ อ.เวียงแก่นถือเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงติดต่อกับชายแดน สปป.ลาว ด้านแม่น้ำโขง-ดอยผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า ซึ่งตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ.ที่อุณหภูมิลดต่ำลงถึงขั้นติดลบ 2-3 องศาเซลเซียส ใกล้เคียงกับที่ภูชี้ฟ้า และผาตั้งเช่นกัน ก่อนที่อุณหภูมิจะสูงขึ้นเป็น 1 องศาเซลเซียสในเช้าวันนี้
ว่าที่ พ.ท.มรกต อินปั่น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยคุ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงวันแรกที่สภาพอากาศหนาวจัดกะทันหัน ตนได้ถ่ายภาพบริเวณกิ่งไม้และต้นไม้โดยรอบโรงเรียน พบว่ามีน้ำค้างแข็งเกาะติด โดยวันนั้นอุณหภูมิอยู่ที่ -3 องศาเซลเซียส ก่อนที่วันที่ 26 ม.ค.จะสูงขึ้นเล็กน้อยเป็น -2 องศาเซลเซียสตามลำดับ
ดังนั้น โรงเรียนจึงได้ทำหนังสือขออนุญาตปิดทำการเรียนการสอนชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ เพราะความหนาวเย็นมากทำให้นักเรียนไม่มีสมาธิในการเรียน และเมื่ออากาศอบอุ่นจึงค่อยกลับมาเรียนหนังสือกันตามปกติต่อไป
“สำหรับโรงเรียนหัวคุมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,200 เมตร และจากความหนาวเย็นจนเกิดน้ำค้างแข็งดังกล่าวก็สร้างความตื่นตกใจให้แก่ครูและนักเรียนอย่างมาก เพราะไม่เคยพบเห็นว่าน้ำค้างจากกิ่งไม้กลายเป็นน้ำแข็งได้ โดยน้ำค้างแข็งมักเกิดขึ้นในจุดที่ไม่มีลมพัด โดยเฉพาะตามยอดหญ้าหลายจุดของโรงเรียน” ว่าที่ พ.ท.มรกตกล่าว