แพร่ - คณะศรัทธาวัดปางงุ้น เรียกร้องผ่านสื่อ จี้คณะสงฆ์-สำนักพุทธฯ แพร่ ทบทวนคำสั่งขับเจ้าอาวาสออกพ้นพื้นที่ ยันเป็นพระสงฆ์ที่ออกมาร้องเรียนความไม่ชอบมาพากลในชุมชนแทนชาวบ้านตลอด ทั้งเรื่องงบตำบลละ 5 ล้าน-การเรียกรับเงินกล่องดิจิตอลทีวี ยันเงื่อนงำงบเข้าพรรษา
วันนี้ (25 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพระครูวิจิตรธรรมสาธก รองเจ้าคณะอำเภอวังชิ้น, พระครูปัญญาพลกร เจ้าคณะตำบลสรอย พร้อมด้วยนายณฐกร จิรภัคพงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ เข้าพบพระยงยุทธ ทีปโก เจ้าอาวาสวัดปางงุ้น ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ เพื่อแจ้งว่ามีกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านเข้าร้องเรียนว่าเจ้าอาวาสประพฤติตัวไม่เหมาะสมในสมณเพศ สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในชุมชน พร้อมกับขอให้ออกจากพื้นที่ไปก่อนเพื่อความปลอดภัยนั้น
ขณะนี้ชาวบ้านปางงุ้นพากันมาให้กำลังใจพระยงยุทธ ทีปโก และบอกว่าการที่พระมาจำพรรษาอยู่ที่วัดปางงุ้น นอกจากเป็นที่พึ่งทางศาสนาแล้วยังช่วยให้ชาวบ้านได้มีความรู้หลายด้าน เช่น การอนุรักษ์ป่า การออมทรัพย์ การแก้ปัญหายาเสพติดในหมู่เยาวชน
กรณีที่ถูกสำนักพุทธฯ และคณะสงฆ์ลงความเห็นให้ออกจากวัดไป เนื่องจากพระยงยุทธได้นำปัญหาของชาวบ้านกรณีที่มีการทุจริตในโครงการต่างๆ ไปร้องเรียนแทนชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านไม่กล้าไปร้องเรียน เพราะกลัวอิทธิพลของผู้นำ
ชาวบ้านปางงุ้นได้ร้องขอให้สำนักพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ และคณะสงฆ์จังหวัดแพร่ เปลี่ยนแปลงมติให้พระยงยุทธอยู่ต่อไป โดยได้ทำหนังสือร้องเรียนทุจริตของผู้นำหมู่บ้านผ่านสื่อมวลชน เพื่อเป็นข้อมูลในการเปิดโปงการทุจริตในท้องถิ่นให้หน่วยงานรับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบ
นายเย็น จิตเสงี่ยม หนึ่งในชาวบ้านปางงุ้น ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ กล่าวว่า คนในหมู่บ้านร้อยละ 80 ต้องการให้พระยงยุทธอยู่ในวัดปางงุ้นต่อไป ส่วนอีกร้อยละ 20 คือ พวกผู้นำชุมชน ที่ไม่เคยมาดูว่าพระรูปนี้ทำอะไร ทั้งที่พระทำเพื่อชาวบ้าน ปกป้องเงินงบประมาณ
“ที่ผ่านมาชาวบ้านจะได้รับเงินพัฒนาจากรัฐเพียงครึ่งเดียว นอกนั้นเข้าสู่กระบวนการทุจริต เช่น ดาดลำเหมือง ระยะ 100 เมตร ค่าแรง 12,000 บาท มีการตัดเงินเหลือ 8,000 บาท นอกจากนี้ยังมีความไม่ชอบมาพากลเรื่องการทำโครงการ ปัญหาเหล่านี้พระเป็นผู้ร้องเรียน ในหมู่ 6 ต.สรอย พระต้องการให้มีการตรวจสอบแต่ถูกขัดขวาง เชื่อว่าปัญหาใหญ่จะเกิดขึ้นอีกไม่เพียงไล่พระเท่านั้น”
ทั้งนี้ ในระยะที่ผ่านมา พระยงยุทธ ทีปโก เจ้าอาวาสวัดปางงุ้น เคยออกมาร้องเรียนความไม่ชอบมาพากลในหลายเรื่อง เช่น การทุจริตโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 5 ล้านต่อตำบล, การทุจริตกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ที่มีการเรียกรับเงินจากชาวบ้าน, การใช้งบประมาณประเพณีเข้าพรรษา จนคณะสงฆ์ไม่กล้ารับเงิน ฯลฯ