ออเดอร์ล้น! ภัยแล้งส่งผลดีต่อเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ขายได้ราคาดี

อุบลราชธานี - ภัยแล้งส่งผลดีและผลกระทบต่อเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี โดยเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ขายได้มากกว่าปกติ ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำมูลที่ลดลงต่อเนื่องเริ่มกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังหยุดเลี้ยงกว่า 10 ราย ที่เหลือปรับลดปริมาณการเลี้ยงเพื่อป้องกันการขาดทุน

สถานการณ์ภัยแล้งที่เริ่มรุนแรงขึ้นทำให้เกษตรกรบ้านเพียเพ้า ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เร่งปลูกต้นข้าวโพดใช้เลี้ยงสัตว์ เพื่อตัดขายให้แก่ผู้เลี้ยงวัวและควายในหน้าแล้ง โดยวางขายตามริมถนนสายเลี่ยงเมืองกว่า 10 เจ้า

ปัจจุบันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ขยับราคาขึ้นจากเดิม 20 มัดต่อหนึ่งร้อยบาท เป็น 15 มัดต่อหนึ่งร้อยบาท ตามภาวะความต้องการของตลาดที่ต้องการต้นข้าวโพดไปเลี้ยงสัตว์จากสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้

นายคำ พูลเทพ เกษตรกรผู้ปลูกต้นข้าวโพดใช้เลี้ยงสัตว์ กล่าวว่า ปลูกต้นข้าวโพดใช้เลี้ยงสัตว์ปีละ 4 รุ่น เพราะเป็นพืชที่กินน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง และ 30 วันสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตออกขายได้แล้ว โดยไร่หนึ่งทำรายได้เกือบ 20,000 บาท

จึงทยอยปลูกขายไปตลอดหน้าแล้ง ซึ่งต้นข้าวโพดใช้เลี้ยงสัตว์จะได้ราคาดีมาก เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่แห้งแล้ง กลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์จำเป็นต้องซื้อไปเลี้ยงแทนให้กินแต่หญ้าแห้งเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงไม่แข็งแรงและป่วยได้

ขณะที่ภัยแล้งยังทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี มีระดับน้ำลดลงจากความสูง 7 เมตร เหลือ 1.61 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 5.39 เมตร ทำให้ตอม่อสะพานโผล่พ้นน้ำ

และระดับน้ำที่ลดลงมากยังกระทบต่อผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำมูลทั้งฝั่งอำเภอเมืองและอำเภอวารินชำราบ ต้องเลิกเลี้ยงปลา หรือลากกระชังไปอยู่ในน้ำลึก รวมทั้งลดกระชังเลี้ยงให้เล็กลงเพื่อป้องกันความเสียหายจากระดับน้ำที่ลดลง โดยช่วงนี้มีผู้เลี้ยงปลาในน้ำมูลหยุดเลี้ยงไปแล้วกว่า 10 ราย