อ่างทอง - สาวใหญ่เมืองอ่างทอง ครวญหลังมีปัญหาเรื่องที่ดินกับเพื่อนบ้านที่ดินติดกิน แต่ที่ของตนเป็นที่ตาบอดถูกเพื่อนบ้านนำรั้วมากั้นทำให้ไม่สามารถเข้าออกบ้านได้ ตัดสินใจพาครอบครัว ลูกหลาน และพ่ออายุ 100 ปี มากางเต็นท์นอนริมถนนหน้าบ้าน ขณะที่ผู้ว่าฯ อ่างทอง ลงแก้ปัญหาด้วยตนเอง พร้อมเร่งดำเนินการเปิดทางเข้าออกให้
วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา นางฉวีวรรณ จันทร์พันแจ้ง อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 37 หมู่ 1 ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ได้พาครอบครัวที่อยู่ภายในบ้าน 7 ชีวิต ออกมากางเต็นท์นอนที่บริเวณริมถนนหน้าบ้าน พร้อมด้วย นายดี สุขมงคล อายุ 100 ปี บิดา หลังเกิดพิพาทเรื่องที่ดินที่ทางเดินเข้าออกจากบ้านซึ่งบ้านของตนเองอยู่ด้านในเป็นที่ดินตาบอด ไร้ทางเข้าออกต้องใช้เดินทางผ่านของที่ดินเพื่อนบ้าน เมื่อเจ้าของที่ดินใช้ลวดหนามล้อมรั้วจึงประสบปัญหาในการเดินทางเข้าออก ต้องพาลูกหลานมุดรั้วรวดหนาม จึงได้พาครอบครัวออกมาปักหลักตั้งเต็นท์นอนริมถนนหน้าบ้านตนเอง
นางฉวีวรรณ เผยว่า บ้านปลูกอยู่บนที่ดินของตนเองซึ่งเป็นที่ดินตาบอด หลังมีปัญหาพิพาทเรื่องที่ดินกับทางเจ้าของที่ดินที่อยู่ติดกัน ที่ตนต้องเดินทางผ่านเข้าออกทุกวัน เจ้าของที่ดินได้ทำการล้อมรั้วในที่ดิน ทำให้ตน และครอบครัวต้องได้รับผลกระทบในการเดินทางเข้าออกยากลำบากมากขึ้น ต้องมุดลวดหนามเพื่อเดินทางเข้าออกบ้าน จึงจำต้องพาครอบครัวทั้งหมด 7 คน มานอนกางเต็นท์ที่ริมถนนหน้าทางเข้าบ้านตนเอง เพื่อความสะดวกในการดำรงชีวิต และถ้าหน่วยงานของรัฐช่วยเหลือในการเดินทางเข้าออกบ้านไม่ได้ ก็จำเป็นต้องทิ้งบ้านให้ร้างแล้วไปเช่าบ้านอยู่ เพื่อความสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวัน
นายวิชัย ตั้งคำเจริญ นายอำเภอวิเศษชัยชาญ เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องการเกิดพิพาทที่ดินเข้าออก โดยครอบครัว นางฉวีวรรณ ได้มาตั้งเต็นท์นอนด้านนอกบ้านริมถนนแล้วได้เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมเป็นหวงด้านสุขภาพ และการดำรงชีวิตในยามกลางคืนของครอบครัว และอยากให้พาคุณตาทองดี อายุ 100 ปี กลับเข้าไปนอนในบ้านก่อนเพื่อความปลอดภัย และในวันนี้ (19 ม.ค.) จะทำการพาไปพบทางอัยการปรึกษาเรื่องข้อกฎหมายพิพาทเรื่องที่ดิน เพื่อดำเนินการหาทางออกที่ดีในการแก้ไขเรื่องขอพิพาทที่ดินทางเข้าออกต่อไป
ต่อมา เช้าวันนี้(19 ม.ค.) นางฉวีวรรณ จันทร์พันแจ้ง พร้อมญาติได้เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอ่างทอง โดยมี นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง อัยการคุ้มครองสิทธิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน
นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า สำหรับเรื่องนี้ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้สืบเนื่องมาจากมีโฉนด ส.ค.1 ผืนเดียวกันแล้วมาแบ่งแปลงกัน ต่อมาจึงมีปัญหากับพื้นที่บ้านข้างเคียงจนถึงขั้นทำรั้วมาปิดกั้นทางเข้าออก ซึ่งปัญหาก็คือ ครอบครัวของนางฉวีวรรณ ไม่มีทางออก และก่อนหน้านี้ ก็มีการขอทางออกเป็นทางสาธารณะแล้ว แต่ก็มีคนมาบุกรุกอยู่อีก โดยในช่วงแรกได้มีการทำสัญญาประนอมกันเรื่องทางออกสาธารณะ ทางเทศบาลจึงได้ดำเนินการจัดทางที่สาธารณะให้จาก 4 แปลง แต่ได้เพียง 2 แปลงเท่านั้น จึงเกิดปัญหาขึ้นมา
“ทางเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าวคิดว่าทางเทศบาลดำเนินการเรื่องทางสาธารณะเรียบร้อยแล้ว เลยได้ล้อมรั้วปิดทางเข้าออก อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดอ่างทอง ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยในการไกล่เกลี่ย โดยอาศัยอำนาจศาลสั่งให้เป็นภาวะจำยอมเพื่อที่จะให้มีทางเข้าออกได้ ซึ่งทางจังหวัดอ่างทอง จะได้จ้างทนายให้เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จังหวัดต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน”
ด้านนางฉวีวรรณ จันทร์พันแจ้ง กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้น และดีใจที่ทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ลงมาดูแลเรื่องนี้เอง เพราะตนได้รับความลำบากเป็นอย่างมาก เพราะก่อนที่จะออกมานอนข้างนอกทางครอบครัวของตนได้ถูกปิดล้อมหมด เวลาจะออกมาหาซื้ออาหารก็ลำบาก เพราะพ่อก็เป็นหอบ ลูกหลานต้องไปทำงาน และไปเรียนก็เลยตัดสินใจขนของออกมานอนข้างถนนอย่างที่เห็น โดยวันนี้ตนดีใจมากที่ทางจังหวัดลงมาช่วยเหลือ
