มหาสารคาม - รวบแล้ว! หนุ่มโหดฆ่าเผายางโหดเหี้ยมกิ๊กสาว อ้างแค้นผู้ตายด่าว่าถึงบุพการี สารภาพทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. (ปป.2) พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม นายเมธี สุพรรณฝ่าย และ พ.ต.อ.ณัฐชัย คงบุญ ผกก.สภ.พยัคฆภูมิพิสัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายธนกร เผ่าทองงาม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 7 ต.ภารแอ่น อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เผาทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ม.ค.59 ที่ผ่านมา เวลา 11.00 น. สภ.พยัคฆภูมิพิสัย ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพถูกเผานั่งยางบริเวณป่าสาธารณะด้านทิศตะวันออก ของบ้านเขวาทุ่ง หมู่ที่ 4 ต.ภารแอ่น อ.พยัคภูมิพิสัย พ.ต.อ.ณัฐชัย คงบุญ ผกก.สภ.พยัคฆภูมิพิสัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน ฝ่ายปกครอง พิสูจน์หลักฐานจังหวัดมหาสารคาม แพทย์เวรโรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัย ร่วมกันออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยที่เกิดเหตุเป็นป่าสาธารณะด้านทิศตะวันออกของบ้านเขวาทุ่งฯ จุดที่พบศพลึกเข้าไปในป่าห่างจากถนนสาธารณะประมาณ 100 ม. สภาพศพถูกเผาด้วยยางรถจักรยานยนต์ และยางรถยนต์ไหม้เกรียม ไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ตายเป็นใคร จึงได้ดำเนินการส่งศพตรวจพิสูจน์เพื่อขอทราบเอกลักษณ์บุคคล
และได้สั่งการชุดสืบสวนดำเนินการสืบหาคนร้ายด้วยการประกาศผ่านทางสื่อ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และสื่อวิทยุชุมชน พร้อมเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วยกุญแจ จำนวน 3 ดอก พร้อมพวงกุญแจ “รูปถ้วย” ขนาดเล็ก ซากยางรถจักรยานยนต์ และยางรถยนต์
ต่อมา เมื่อวันที่ 11 ม.ค.59 ได้มีผู้เป็นพ่อของผู้เสียชีวิตซึ่งติดตามข่าวสารทางหนังสือพิมพ์ และทางเฟซบุ๊กได้โทรศัพท์สอบถามมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พยัคฆภูมิพิสัย โดยแจ้งว่า สามารถจำพวงกุญแจที่ถูกเผาบริเวณที่พบศพผู้เสียชีวิตได้ จึงได้มีการตรวจยืนยันพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นลูกสาวของตนจริง
จากการสืบสวนมีพยานยืนยันว่า พบเห็น นายธนกร เผ่าทองงาม (ผู้ต้องหา) ไปรับผู้เสียชีวิตที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาด้วยกัน จึงได้มีการสืบสวนในเชิงลึกน่าเชื่อว่า นายธนกร น่าจะเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้
จากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.พยัคฆภูมิพิสัย ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จึงได้ขออำนาจศาลออกหมายจับ นายธนกร ผู้ต้องหาในคดีนี้ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เผาทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย” ตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.42/2559 และ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.59 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ในเขตพื้นที่ สภ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี จึงได้ประสานงาน และร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหานี้ได้ที่กุฏิร้าง ภายในสำนักสงฆ์บ้านเม็กใหญ่ หมู่ที่ 4 ต.กลาง อ.เดชอุดม พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า หมายเลขทะเบียน กวษ 456 มหาสารคาม จำนวน 1 คัน จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ เป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายจริง เนื่องจากอารมณ์ชั่ววูบ
นายธนกร กล่าวว่า ตนรักผู้หญิงคนนี้มาก ทุ่มเทให้ทุกอย่าง แต่ตนมีภรรยาอยู่แล้ว ผู้ตายก็ยังคบหากับตนอยู่ วันเกิดเหตุฝ่ายผู้ตายได้โทร.มาขอเงิน ตนจึงโทร.ไปให้มาเจอกันที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ตอนนั้นตนไม่มีเงินจึงบอกว่าจะไปเอาเงินที่บ้าน จ.มหาสารคาม โดยให้นั่งรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน ระหว่างทางได้ทะเลาะกันมา
จนมาถึงที่เกิดเหตุ เวลา 16.40 น. วันที่ 11 ม.ค. ผู้ตายได้ด่าทอถึงบุพการี ตนจึงบันดาลโทสะจอดรถทำร้ายผู้ตายจนสลบ ตนเข้าใจว่าเสียชีวิตจึงได้ขับรถออกไปซื้อน้ำมันเบนซิน 5 ลิตร พร้อมกับยางรถยนต์ที่ร้านค้าใกล้เคียงกัน จากนั้นจึงใช้น้ำมันราดผู้เสียชีวิต ก่อนใช้ไฟจุดเผา จากนั้นรอประมาณ 15 นาที ให้แน่ใจว่าไหม้ผู้ตายหมด ก่อนหลบหนีจนมาถูกจับกุมดังกล่าว
นายธนกร กล่าวอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณเที่ยงคืนได้มีวิญญาณของผู้ตายมาหาที่ห้องขัง โดยมาหาเป็นรูปคล้ายคน เห็นภาพอยู่ประมาณ 10 นาที พร้อมกับร้องไห้ โดยผู้ตายมาบอกแก่ตนว่าเขาจะไปแล้ว ขอบคุณที่ทำบุญให้
ด้านพ่อของผู้เสียชีวิตเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า พอจะทราบว่าผู้ตายคบกับลูกสาวของตน ไม่คิดว่าจะฆ่าลูกสาวตนได้ลง ที่ผ่านมา ทราบว่าไปเที่ยวด้วยกันบ่อยครั้ง และไม่เคยเห็นมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันจนถึงขั้นลงมือฆ่าลูกสาวตน วันเกิดเหตุที่ลูกสาวหายไปตนรู้สึกสงสัยว่าผู้ตายทำไมไม่ไปรับลูกที่โรงเรียน เพราะปกติแล้วผู้ตายเป็นคนรักลูกสาวมาก ต้องไปรับไปส่งเป็นประจำ
จนวันที่หายตัวไปผู้ตายไม่ไปรับลูกสาวตนรู้สึกผิดปกติจึงโทรศัพท์หาแต่ผู้ตายก็ไม่รับสาย จึงมีความเป็นห่วงเข้าแจ้งตำรวจเพื่อตามหาตัว จนมาพบข่าวทางเฟซบุ๊ก โดยศพของลูกสาวมีพวงกุญแจอยู่ข้างๆ ตนจึงจำได้ว่าเป็นของลูกสาวจริงๆ จึงตามมาหาที่มหาสารคาม
“เสียใจมาก อยากถามนายนายธนกร ว่าทำไมถึงมีจิตใจเหี้ยมโหดลงมือฆ่าลูกสาวตนเยี่ยงนี้ หากตนทำกับลูก หรือญาติของนายธนกร บ้างจะเป็นอย่างไร จากนี้ก็ให้เป็นไปตามหน้าที่ของกฎหมายสูงสุดต่อไป