MGR Online - ลูกชายเจ้าของร้านอุปกรณ์เครื่องครัวย่านพลับพลาไชย เครียดบันดาลโทสะชักปืนขนาด 9 มม. ยิงแม่ตัวเองดับคาบ้าน หลังมีปากเสียงเรื่องคนงานขับรถชนรถยนต์เก๋งส่วนตัว พยานเผยมือปืนมีปมด้อยมักน้อยใจคิดว่าผู้ตายไม่รัก
วันนี้ (16 ม.ค.) พ.ต.ท.ธานัท นวลโสภาภณ พงส.ผนพ.สน.พลับพลาไชย 2 รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณ ตึกแถวเลขที่ 981/1 ซอยมัสยิดหลวงโกชาอิศหาก ถ.ทรงวาด แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ กทม. หลังรับแจ้งไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดใกล้เตียงนอนทราบชื่อต่อมา คือ ชื่อ นางสุพลา นิติสารัตน์ อายุ 61 ปี ถูกยิงเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขวา 1 นัด จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบกระจกหน้าต่างข้างล่างมีร่องรอยการถูกอาวุธปืน 1 นัด กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสันติ นิติสารัตน์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขับรถรถยนต์หลบหนีโดยไม่ทราบเส้นทาง
จากการสอบสวนพยานแวดล้อม เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังอยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และเห็นนายสันติ วิ่งออกจากบ้านพร้อมด้วยอาวุธปืน และจากนั้นก็ได้วิ่งเข้าไปดู ก็พบกับ นางสุพลา นอนจมกองเลือด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านที่เกิดเหตุอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ นางสุพลา นายสันติ และแม่บ้าน รวม 3 คน โดย นายสันติ จะคอยช่วยเหลือกิจการทางบ้าน ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องครัว และถ้วยชาม ทั้งยังมีธุรกิจส่วนเกี่ยวกับการซื้อขายรถยนต์มือสองออนไลน์ โดยหลังจากที่ นายอำนวย นิติสารัตน์ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นบิดาได้หย่าร้างกับนางสุพลา ก่อนที่นางสุพลาจะมีเพื่อนชายคนสนิทคนใหม่ ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปี จนถึงปัจจุบันสองแม่ลูกมักจะมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งนางสุพลาจะดุด่าว่ากล่าวจนทำให้นายสันติเกิดความน้อยใจคิดว่ามารดาไม่รัก จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ รถของนายสันติถูกคนงานของมารดาขับชน นายสันติจึงไปบอกมารดา แต่กลับถูกต่อว่ากลับมา นายสันติจึงขึ้นไปหยิบอาวุธปืนบนชั้นสอง และลงมามีปากเสียงอย่างรุนแรงอีกครั้ง ก่อนที่นายสันติจะบันดาลโทสะ ยิงนางสุพลาหนึ่งนัด ก่อนจะหลบหนีไป
ต่อมาเวลา 16.30 น. นายสันติได้ติดต่อขอมอบตัวกับทางพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.6 เข้าร่วมสอบปากคำด้วย เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากบันดาลโทสะที่มีปากเสียงกับมารดา และรู้สึกสำนึกผิดจึงเดินทางเข้ามอบตัว เบื้องทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป