กาฬสินธุ์ - ตำรวจล็อกเป้าเค้นสอบ “หนุ่มใหญ่” กาฬสินธุ์ เอี่ยวคดีฆ่า “น้องสโนว์” แต่รอผลนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันไม่ทิ้งคดี มั่นใจไม่นานมีคำตอบให้นายกรัฐมนตรี ขณะที่แม่เผยวิญญาณเฮี้ยนลมหมุนเข้าบ้านจนรูปตกลงมาจากหลังตู้ เชื่อ “น้องสโนว์” เพิ่งรู้ตัวว่าเสียชีวิต วอนประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสฆาตกรเร่งตำรวจให้คลี่คลายคดี
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยคนร้ายลงมือถีบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือน้องสโนว์ นักเรียนหญิงชั้น ม.6 อายุ 18 ปีของโรงเรียนร่องคำ อำเภอร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ล่วงละเมิดทางเพศ แต่นักเรียนหญิงต่อสู้ขัดขืนจนถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณจนเสียชีวิต เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเร่งจับตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด วันนี้ (4 ม.ค.) ที่ห้องประชุมสืบสวน สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เข้าติดตามผลการสืบสวนสอบสวนคดีสะเทือนขวัญที่ น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือน้องสโนว์ ถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา
โดยที่ประชุม พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.เสกสรร อินทรสิทธิ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กมลาไสย พร้อมด้วยชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวนภาค 4 รวม 10 ทีม ชี้แจงแนวทางการสืบสวนสอบสวน ซึ่งผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ขณะนี้มีจำนวน 15 คน
พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยขณะนี้มีเพียงคนเดียวที่ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด โดยเฉพาะผลดีเอ็นเอ และจำเป็นที่จะต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะจากพยาน รวมไปถึงรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องสงสัย ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ที่อาจจะเป็นเดือน ซึ่งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และต้องมีคำตอบให้แก่ นายกรัฐมนตรี และประชาชนที่ต้องการให้ตำรวจจับกุมฆาตกรมาดำเนินคดี
“ไม่ต้องไปสนใจว่าผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มคนมีชื่อเสียง หรือเป็นคนในพื้นที่ผู้มีอิทธิพลหรือไม่ เพราะคนที่ลงมือก่อเหตุเป็นคนร้ายที่ตำรวจต้องจับกุม ส่วนเป็นใครหรือไม่นั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ ให้รู้เพียงว่าเป็นบุคคลที่มีความต้องการทางเพศสูง ไม่เหมือนคนปกติทั่วไปเท่านั้น ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานต่อไป แต่ในวันนี้การติดตามตัวฆาตกรยังไม่จบ และจะยังมีการเช็กประวัติบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องการทางเพศสูงควบคู่ไปกับผู้ต้องสงสัยที่ยังรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป” รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวภายในหมู่บ้านโนนเมือง ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย ซึ่งเป็นบ้านของ “น้องสโนว์” นักเรียนเริ่มเดินทางออกจากหมู่บ้านไปเรียนกันตามปกติภายหลังจากที่หยุดปีใหม่ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความหวาดระแวง เนื่องจากในหมู่บ้านประชากรจะมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และยังอยู่ในวัยเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษา ผู้ปกครองได้เตือนบุตรหลานบางคนถึงขนาดไปรับส่งบุตรหลานที่เป็นผู้หญิงด้วยตนเอง
ชาวบ้านรายหนึ่งในตำบลดงลิง กล่าวว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวฆาตกรมาดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว เพราะครอบครัวที่มีเด็กผู้หญิงรู้สึกหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่าใครคือ ฆาตกร แต่ก็เชื่อมั่นตำรวจ เนื่องจากเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับมาแล้ว ตำรวจต้องจับได้แน่ แต่ก็ขอให้เร่งมือให้เร็วๆ ด้วย
ส่วนที่บ้านของ “น้องสโนว์” นางลำไย พลประสิทธิ์ มารดา และครอบครัวยังคงอยู่ในความเศร้าสลด และทุกคนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงความฝันแต่เป็นความฝันที่เจ็บปวด โดยมารดาน้องสโนว์ กล่าวว่า ทุกครั้งที่เห็นรูปลูกสาวยังคิดว่าลูกสาวของตนไปเข้าค่ายพักแรม เพราะหลายครั้งก็ไปเข้าค่ายที่ทางโรงเรียนจัดให้ในหลายๆ วัน แต่ครั้งนี้ทำไมลูกสาวยังไม่กลับมา
เมื่อคืนก่อนหลังงานศพ ตนได้นำรูปลูกสาวที่ใส่กรอบมาวางไว้หลังตู้โชว์ จนในช่วงค่ำ ซึ่งได้ปิดบ้านแล้ว จู่ๆ ก็มีลมหมุนเข้ามาภายในบ้านพัดเอารูปลูกสาวตกลงมาแตกจนหมด ส่วนตัวเชื่อว่าลูกสาวของตนเพิ่งจะรู้ตัวว่าได้เสียชีวิตไปแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก จึงขอร้องให้ประชาชนที่รู้เบาะแสให้ไปบอกตำรวจด้วยว่าใครเป็นฆาตกรที่ลงมือฆ่าลูกสาวตน