กาฬสินธุ์ - ตำรวจชุดคลี่คลายคดีรวบ 3 ผู้ต้องสงสัยเค้นสอบมือฆ่า “น้องสโนว์” นักเรียนหญิงชั้น ม.6 ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เผยรอเพียงผลตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อนออกหมายจับ ขณะที่โลกโซเชียลฯ เรียกร้องให้แก้กฎหมายเอาผิดผู้ต้องหา คดีนี้ต้องโทษประหารชีวิตเท่านั้น
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยคนร้ายลงมือถีบจักรยานยนต์ของ น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือน้องสโนว์ นักเรียนหญิงชั้น ม.6 อายุ 18 ปีของโรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อกระทำการล่วงละเมิดทางเพศ แต่นักเรียนหญิงคนนี้ต่อสู้ขัดขืนจนถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณจนเสียชีวิต และเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเร่งจับตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดวันนี้ (1 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมชัยสุนทร สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4, พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4, พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บังคับการศูนย์สืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมคณะ เข้าติดตามผลการสืบสวนสอบสวนคดีสะเทือนขวัญที่คนร้ายลงมือถีบจักรยานยนต์ของ น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือน้องสโนว์ นักเรียนหญิงชั้น ม.6 อายุ 18 ปีของโรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อกระทำการล่วงละเมิดทางเพศ แต่นักเรียนหญิงคนนี้ต่อสู้ขัดขืนจนถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา
การประชุมความคืบหน้าในส่วนของชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์มี พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง, พ.ต.อ.ทินณรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอกมลาไสย และ อำเภอร่องคำ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เข้ารายงานผลการสืบสวนพร้อมกับชุดทำงานจำนวน 12 ทีม โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบข้อมูลพฤติกรรมและพยานหลักฐานจากผู้ต้องสงสัย 3 คน จากจำนวนผู้ต้องสงสัย 15 คนที่มีความเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ ซึ่งตำรวจชุดสืบสวนควบคุมตัวมาได้จากพยานหลักฐาน แต่ไม่สามารถจะเปิดเผยได้ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นใคร และอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์หรือไม่ เพราะจะทำให้เสียรูปคดี ทั้งนี้แนวทางก็ยังคงดำเนินการเช่นเดิม นั่นคือการหาหลักฐานแบบปูพรม เพื่อแจ้งประชาชนว่าคดีนี้มีรางวัลนำจับให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสของมือฆาตกร เป็นเงิน 1 แสนบาท ซึ่งตำรวจจะปิดบังข้องมูลเป็นความลับ
“ดังนั้นคดีนี้เรามีความมั่นใจว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ในเร็ววัน เพียงรอผลจากการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อนจึงจะทำการออกหมายจับผู้ต้องหาตัวจริง ทั้งนี้ตำรวจยืนยันว่าการทำงานจะตรงไปตรงมาและต้องเร่งคลี่คลายคดีเพื่อให้ประชาชนเกิดความสงบสุข”
นอกจากนี้ จากการสอบถาม “ครอบครัวพลประสิทธิ์” ญาติได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี และต้องการให้ฆาตกรชดใช้กรรมรับโทษที่ได้ก่อไว้กับน้องสโนว์
ด้านนางลำไย พลประสิทธิ์ มารดาน้องสโนว์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรให้ความสำคัญต่อคดีนี้ หลังจากที่ได้รับฟังข้อความจาก พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงความห่วงใยนั้นทำให้ครอบครัวมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น และเชื่อมั่นว่าคดีนี้จะสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษได้ ให้ฆาตกรได้ชดใช้กรรมที่ทำเอาไว้เท่านั้น
สำหรับคดีสะเทือนขวัญนี้ยังได้รับความสนใจจากโลกสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก ได้มีการส่งเอกสารข่าวส่งต่อที่ผ่านสำนักข่าวต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลในยุคนี้ทำการแก้ไขกฎหมายให้ผู้ต้องหาที่กระทำการล่วงละเมิดทางเพศในลักษณะนี้มีโทษประหารชีวิตเท่านั้น เพราะเชื่อว่าส่วนใหญ่ผู้ต้องหาที่ทำได้ถึงขนาดนี้ไม่มีจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ โดยไม่ต้องไปสนใจเสียทัดทานจากนักวิชาการ เพราะนักวิชาการกลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่จะไม่เคยได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับครอบครัวโดยตรง จึงขอให้มีการแก้ไขกฎหมายและให้มีการเอาผิดให้ถึงที่สุด
แหล่งข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่มีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องได้มีการก๊อบปี้ข่าวและมีการอ้างไปถึงการจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนในสถาบันการศึกษา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าก็ให้รับผิดชอบในข้อความที่ตนเองไปลงเนื่องจากไม่เป็นความจริงและหากทำให้สถาบันการศึกษาเสียหายก็จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วย