ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบจุดปล่อยโคมลอยยักษ์ที่วัดเกาะกลาง หลังโลกออนไลน์แชร์ว่อนเหตุระทึกโคมตกใส่บ้านหวิดถูกไฟเผาวอด เร่งหาตัวเจ้าของและคนปล่อยโคม เบื้องต้นพบเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ขณะที่เจ้าอาวาสปฏิเสธทางวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่รับมีการจัดงานบวงสรวงพระอินทร์ และเทพทันใจประจำปี โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากแล้วนำโคมมาปล่อยบูชาและแก้บน
จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพและข้อความจากเฟซบุ๊ก Boup Nalinee Na Chiengmai ที่เล่าเรื่องสุดระทึก โคมยักษ์ลอยทุกข์ลอยโศกของคนอื่นตกลงมาในบ้านตัวเอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าของโพสต์ระบุว่าตอนแรกที่คุณพ่อซึ่งอยู่บ้านข้างกันโทร.มาแจ้งข่าวว่าโคมลอยตกลงในบ้าน ก็ไม่ได้ตกใจอะไร แต่พอได้เห็นภาพขนาดของโคมก็ต้องตกใจเพราะมีขนาดใหญ่กว่าโคมลอยปกติ เพราะสูงกว่าตึก 2 ชั้น เรียกว่าเท่าบอลลูนยักษ์เลยก็ว่าได้ ครั้งนี้ถือว่ายังโชคดีที่โคมดังกล่าวตกลงในสนาม เพราะคุณพ่อระบุว่าตอนที่ตกลงมายังมีเปลวไฟติดอยู่ ถ้าหากหล่นลงที่ตัวบ้านคงเกิดความเสียหายหนักมากกว่านี้ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังพบว่าที่ตัวโคมเขียนด้วยปากกาว่า “ปล่อยทุกข์ ปล่อยโศก ปล่อยโรค ปล่อยภัย ขอให้ครอบครัวสุขภาพแข็งแรง” แต่เจ้าของโคมจะรู้หรือไม่ว่าสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอยู่
วันนี้ (31 ธ.ค. 58) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมคณะผู้ใหญ่บ้าน บ้านเกาะกลาง เข้าตรวจสอบหาข้อเท็จจริงจากกรณีการปล่อยโคมยักษ์ แล้วไปตกในบ้านของชาวบ้านใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสอบถามกับทางเจ้าอาวาส และผู้ใหญ่บ้าน ในกรณีที่เกิดขึ้นเบื้องต้นทางเจ้าอาวาสได้ปฏิเสธการเกี่ยวข้องกับการปล่อย จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เผยว่า ในเบื้องต้นตอนนี้ยังไม่สามารถหาตัวผู้ปล่อยได้ และเชื่อว่าจะเป็นคณะนักท่องเที่ยวจากประเทศสิงค์โปร อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนนักเนื่องจากในวันที่ปล่อยโคมในวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมามีคนจำนวนมากที่เข้ามาร่วมงานวันบวงสรวงพระอินทร์ เทพทันใจ ประจำปีของทางวัด ซึ่งหลังจากนี้ในเบื้องต้นจะทำการหาตัวผู้ปล่อยก่อนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ด้านพระครูบาบุญหลวง เจ้าอาวาสวัดป่าแดด เผยว่า ขอชี้แจงในเรื่องการปล่อยโคมที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นในวันงานบวงสรวงพระอินทร์ เทพทันใจ ประจำปี 2559 นั้น มีผู้คนเข้ามามากมาย และแต่ละคนก็ได้นำโคมไฟมาปล่อยบูชา แก้บน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางวัดใดๆทั้งสิ้น ซึ่งทางวัดไม่ได้มีการว่าจ้างและไม่ได้ชี้นำ ชักจูงให้นำมาปล่อยแต่ด้วยความจิตศรัทธาของเขาที่อาจจะมีการบนไว้ แล้วการจุดในวันนั้นก็ได้มีการนำมาหลายลูก โดยในวันดังกล่าวทางวัดก็ได้มีการห้ามไว้และได้จุดไปเพียง 2 ลูกเท่านั้น