ราชบุรี - เมียอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ร้องศูนย์ดำรงธรรม วอนขอความเป็นธรรมให้สามีที่นอนป่วยเป็นอัมพาต หลังถูกตำรวจบ้านโป่งยิงเข้าที่กลางหลัง
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (25 ธ.ค.) นางจิณณพัต พฤกษา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 5 ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้อุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ มาที่ศูนย์ดำรงธรรม บริเวณชั้น 2 ของศาลากลางจังหวัดราชบุรี พร้อมกับ น.ส.พัชรี ลี้เกษม ซึ่งเป็นพี่สาว เพื่อเข้าร้องเรียนต่อ น.ส.มณีวรรณ ดุมแก้ว นิติกรศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี ในกรณีที่ นายฉัตรชัย บุญนำ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นสามีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณด้านหลัง ทำให้เป็นอัมพาตครึ่งตัว โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.58 ที่ผ่านมา
โดย น.ส.พัชรี ลี้เกษม พี่สาวของนายฉัตรชัย กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุน้องชายได้โทรศัพท์มาหาและบอกว่ากำลังขับรถหลบหนีด่านตรวจพื้นที่ ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เนื่องจากรถทะเบียนขาด และรถโหลดเตี้ย เกรงว่าจะถูกจับ จากนั้นก็วางสายไปจนกระทั่งได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า น้องชายได้รับบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านโป่ง จึงได้รีบไปดูพร้อมกับน้องสะใภ้ พบว่า น้องชายถูกยิงที่กลางหลังทำให้ลำตัวตั้งแต่ช่วงเอวลงไปจนถึงปลายขานั้นไม่มีความรู้สึกอะไร
ตนจึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับน้องสาวก็ทราบว่า หลังจากที่วางสายกับตนแล้วก็ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจขับตามมา และใช้อาวุธปืนยิงใส่รถ ทำให้น้องชายกลัวมากจึงได้ขับรถหนี และเมื่อถึงป่าละเมาะจึงได้เปิดประตูรถเพื่อจะหลบหนี ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเข้ากลางหลัง และถูกจับ จากนั้นก็ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลบ้านโป่ง
เมื่อตนสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.บ้านโป่ง ก็ทราบว่า น้องชายของตนขับรถหลบหนีด่านตรวจ และเห็นว่ามีอาวุธปืนอยู่ในมือจึงทำให้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเข้าที่ด้านหลัง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นตนมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ เพราะน้องชายของตนไม่เคยพก และไม่มีอาวุธปืนอย่างแน่นอน และการที่หลบหนีเพราะดื่มเบียร์ไปครึ่งกระป๋อง รวมทั้งรถทะเบียนขาดอุปกรณ์ไม่ครบ จึงเกรงว่าจะถูกจับเพราะมีเงินอยู่แค่ 700 บาท จึงได้หลบหนี แต่เมื่อมากลายเป็นคนพิการอย่างนี้ทำให้ลูกเมียลำบาก เพราะน้องชายเป็นหัวหน้าครอบครัวทำงานคนเดียว
ส่วนเมียต้องคอยเลี้ยงดูลูกชายอยู่บ้าน ไม่ได้ทำงานอะไร และเมื่อเสาหลักของครอบครัวต้องมาพิการเป็นอัมพาตก็ทำให้ชีวิตลำบากขึ้น และเมื่อเกิดเรื่องขึ้นทาง ผกก.สภ.บ้านโป่ง ได้มอบเงินช่วยเหลือให้ จำนวน 10,000 บาท เป็นค่าใช้จ่าย โดยบอกว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องของคดี แต่เป็นเงินช่วยเหลือส่วนตัว ซึ่งตนก็รับเอาไว้ แต่ก็อยากจะมาร้องขอความเป็นธรรมให้แก่น้องชาย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ
ด้าน น.ส.มณีวรรณ ดุมแก้ว นิติกร ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี กล่าวภายหลังได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้วว่า จะได้ส่งเรื่องเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป