บึงกาฬ - รองผู้ว่าฯ บึงกาฬนำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 1,000 นาย ออกปฏิบัติการทวงคืนผืนป่ากะลา-ภูสิงห์ หลังนายทุนและชาวบ้านรุกตัดแผ้วถางแล้วต้นยางพารากว่า 17,480 ต้นในพื้นที่ 230 ไร่
วันนี้ (25 ธ.ค.) เวลา 07.00 น. นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พ.อ.วิชัย มารศรี รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดบึงกาฬ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ ทหารพรานที่ 2103 และ 2105 ตำรวจ ตชด.244 กองร้อยควบคุมฝูงชน ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ อาสาสมัครตำรวจชุมชน (หญิง) ตำรวจ ปทส.บึงกาฬ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส. และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานกรมป่าไม้ ผสานกำลังกว่า 1,000 นายเข้าปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าในพื้นที่เป้าหมายตามคำสั่งยุทธการที่ 1 (พิทักษ์ป่ากะลา ภูสิงห์) พื้นที่ติดเชิงเขาภูสิงห์ หลังมีผู้มีอิทธิพลบุกรุกเข้าไปปลูกต้นยางพารากว่า 230 ไร่ประมาณ 17,480 ต้น
นายชัยธวัช เนียมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 58 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทวงคืนผืนป่าบริเวณดังกล่าวแล้ว แต่ได้รับการต่อต้านจากกลุ่มผู้ที่เสียผลประโยชน์ นำโดยพระอาจารย์โกวิญ กันตธัมโม (หลวงตาน้อย)เจ้าอาวาสวัดป่าสิงหนาทบรรพต (วัดภูงาม) ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พร้อมด้วยชาวบ้านอีก 50-60 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบุคคลที่มาจากพื้นที่อื่นได้โห่ร้องและเข้าทำการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งยังมีการนำรถแทรกเตอร์ รถยนต์มาปิดเส้นทางเข้าออกจนเจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลังกลับมา
สำหรับการปฎิบัติงานวันนี้เป็นการทำงานตามนโยบายของรัฐบาลและ คสช. เป็นการทำงานที่มีการบรูณาการกันระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการตรวจยึดไว้แล้วได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ พื้นที่ทั้งหมดที่เราจะเข้าปฏิบัติการทั้งหมดมีประมาณ 230 ไร่ โดยจะตัดฟันตามระเบียบของกรมป่าไม้ คือ ต้นยางพาราอายุ 1-4 ปีต้องตัดทั้งหมด ยางพาราอายุ 4-20 ปีก็ตัด 2 แถวเว้น 1 แถว
ในครั้งนี้ทางจังหวัดบึงกาฬได้วางกำลังไว้ถึง 4 จุด โดยจุดแรกเป็นหน่วยสกัดกั้น ปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อยับยั้งกลุ่มมวลชนที่จะมาต่อต้านมีกำลังจาก ตำรวจ ทหารพราน อส.กว่า 160 นายคอยดูแล จุดที่ 2 หน่วยรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่จากกองร้อยควบคุมฝูงชนกว่า 200 นาย กองร้อยน้ำหวานอีก 300 นายที่จะคอยรับมือกลุ่มผู้มีอิทธิพลหากผ่านเข้ามาก็สามารถจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายได้
จุดที่ 3 เป็นหน่วยคุมกันหน่วยปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยมีกองกำลังทหารรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัดบึงกาฬกว่า 100 นายพร้อมอาวุธครบมือคอยอารักขา จุดที่ 4 จุดสุดท้าย เป็นการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ที่จะต้องตัดต้นยางพารา โดยมีกำลังจากป่าไม้บึงกาฬกว่า 80 นาย
สำหรับการปฏิบัติงานในวันนี้ ยังไม่มีการต่อต้าน เพราะจังหวัดได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องมาหลายรอบแล้ว รวมทั้งที่ผ่านมาได้มีผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองได้เข้ามาช่วยพูดจาให้อธิบายข้อเท็จจริงว่า การดำเนินตามกฎหมายนั้นมีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร ขอยืนยันว่าทางจังหวัดบึงกาฬทำตามกฎหมายทุกประการ และไม่มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน
