xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ส.-ตำรวจ-ทหาร ผสานกำลังกวาดล้างเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ยึดยาบ้า 5.5 แสน ไอซ์ 6 กก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ป.ป.ส.-ตำรวจ-ทหาร ผสานกำลังจับกุม 6 ผู้ต้องหาเครือข่ายนายวีระ หมื่นจะดา นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 550,000 เม็ด และยาไอซ์ 6 กก.

วันนี้ (18 ธ.ค. 58) ที่ศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย จังหวัดเชียงใหม่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.กษิดิศ หลักกรด ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ร่วมกันแถลงข่าวตามแผนปฏิบัติการ “แม่น้ำโขงปลอดภัย” ซึ่งจากการประสานงานการข่าวระหว่าง 4 ประเทศ และการร่วมกันสืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการในเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายวีระ หมื่นจะดา นักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่มีบทบาทสำคัญเคลื่อนไหวส่งยาเสพติดเข้ามาในไทย และจำหน่ายยาเสพติดให้กลุ่มค้ายาเสพติดทั่วประเทศไทย โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมีจำนวน 6 คน ได้แก่ นายพัชรเมศฐ์ ธนาปุตรนนท์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188/245 ซอยลาดพร้าว 84 แขวงวังทองหลาง กรุงเทพฯ นายวัชรินทร์ บุญอ่อน หรือนาย ต.เตี้ย อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.7 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นายพงศกร ไม้แก้ว อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/2 ม.9 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายนพพล ภิญญมิตร์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 ม.3 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายกิติคุณ พิสิฐพัฒนา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ซอย 5 ถ.ศิโรรส ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนายณัชพงค์ พิสิฐพิพัฒยา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ซอย 5 ถ.ศิโรรส ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า 550,000 เม็ด และไอซ์ 6 กิโลกรัม โดยชุดปฏิบัติการสามารถทำการจับกุมได้ในวันที่ 15-16 ธันวาคมที่ผ่านมาในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า สืบเนื่องจากการสนธิกำลังของหลายหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดที่ได้ร่วมกันสืบสวนกลุ่มนักค้ายาเสพติดนอกประเทศเครือข่ายของชนกลุ่มน้อยตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า เครือข่ายของนายวีระ หมื่นจะดา (ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ)

จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้มีการดำเนินการค้ายากับกลุ่มเครือข่ายภายในประเทศไทยอีกหลายกลุ่ม ดำเนินการในลักษณะปกปิดตัดตอน ซ่อนเร้น และอำพราง รวมทั้งมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ทั้งกลุ่มผู้จัดหายา กลุ่มผู้ลำเลียงยา กลุ่มผู้กระจายยา และกลุ่มผู้ดำเนินธุรกรรมทางการเงิน ฯลฯ ซึ่งเมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา ก็ได้มีการจับกุมเครือข่ายดังกล่าวนี้ไปก่อนแล้ว 5 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 2.3 ล้านเม็ด ไอซ์ 42 กิโลกรัม และเฮโรอีน 36 กิโลกรัม ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ จากการจับกุมในครั้งนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำเนินการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องจนพบว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าวยังคงมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปยังกลุ่มลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่เป็นประจำ โดยจะมีนายกิติคุณ พิสิฐพัฒนา กับพวกเป็นผู้จัดหาและลำเลียงยางเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามาพักในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนนำยาเสพติดซุกซ่อนลงในกล่องพัสดุ แล้วจัดส่งไปทางขนส่งพัสดุทั่วไปจากจังหวัดเชียงใหม่ไปยังพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หลังจากนั้นจะมีนายพัชรเมศฐ์ ธนาปุตรนนท์ เป็นผู้ไปรับกล่องพัสดุ เพื่อนำไปส่งต่อให้กลุ่มของนายวัชรินทร์ บุญอ่อน กับพวกไปดำเนินการแบ่งกระจายจำหน่ายยาเสพติดอีกทอดหนึ่ง จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ทั้งเครือข่าย พร้อมกันนี้ได้ดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดเป็นจำนวนมาก รวมถึงได้ตรวจยึดสมุดบัญชีเงินฝากอีกจำนวนหลายรายการ

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ยาเสพติดในภูมิภาคนี้ยังขยายตัวกว้างและรุนแรงขึ้น การแก้ปัญหาจะไม่สามารถแก้ไขได้เพียงลำพังประเทศเดียว ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย สำหรับการมาประชุมระดับรัฐมนตรี เรื่องแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย 6 ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งระยะที่ 1 และ 2 ประสบความสำเร็จ จึงได้มีการหารือร่วมกันระหว่าง 4 ประเทศที่จะกำหนดให้มี “โครงการปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย 3 ปี (พ.ศ. 2559-2561) ระหว่างจีน สปป.ลาว พม่า ไทย และยังได้เชิญอีก 2 ประเทศเข้าร่วม คือ ประเทศเวียดนาม และกัมพูชา เพื่อสกัดกั้นจับกุมนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงขนยาเสพติด และนำไปสู่การทำลายแหล่งผลิตต้นตอของขบวนการให้ได้ในที่สุด และในวันนี้เป็นการทำลายเครือข่ายและโครงสร้างการค้ายาเสพติดระดับประเทศในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมทั้งยึดทรัพย์สินของเครือข่ายซึ่งเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยง ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญยุทธศาสตร์หนึ่งในการปราบปรามยาเสพติดต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น