กาญจนบุรี - เจ้าอาวาสวัดเหนือ เชิญชวนชาวกาญจนบุรีร่วมส่งเสด็จ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก คาดประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (16 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศสถานที่จัดพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่บริเวณพระเมรุชั่วคราวที่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออก ของหอพระประวัติสมเด็จพระสังฆราชฯ ท่าน้ำวัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง (วัดเหนือ) ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีประชาชนชาวกาญจนบุรี ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ข้าราชการ แพทย์ พยาบาล พร้อมใจกันสวมชุดดำเดินทางมาไหว้สักการะพระรูปเหมือนสมเด็จพระสังฆราชฯ ที่ตั้งประดิษฐานเอาไว้ที่ห้องโถงของหอพระประวัติอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ประชาชนที่เดินทางมายังพร้อมกันถ่ายรูปหมู่ที่ด้านหน้าพระเมรุชั่วคราว ที่ประดับด้วยไม้ดอกไม้ประดับ รวมทั้งต้นข้าวที่ปลูกเอาไว้โดยรอบรวม 4 ชั้นอย่างสวยงาม โดยด้านบนพระเมรุลอย (จำลอง) มีพระโกศทองน้อยสีเหลืองอร่ามสวยงามตั้งเอาไว้ด้านบนอีกด้วย
สำหรับพระโกศทองน้อย เริ่มปั้นตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.เสร็จวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 21 วัน โดยฝีมือของ นายมนัส บุตรเนียม อายุ 43 ปี ช่างชาวจังหวัดเพชรบุรี ที่คอยติดตาม เจ้าคุณพระกิตติสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง (วัดเหนือ) โดยมีทีมงานอีก 2 คน คือ นายณัฐพล วิเศษสิงห์ และนายประสงค์ ดอนเจดีย์
โดยเจ้าคุณพระกิตติสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง (วัดเหนือ) กล่าวว่า สำหรับเมรุจำลองด้านบนสุดจะเป็นที่ตั้งพระโกศทองน้อย ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สูง 2.50 เมตร ฐานกว้วง 1.20 เมตร หนักประมาณ 20 กิโลกรัม
โดยการดำนาใช้ข้าวพันธุ์หอมกาญจน์ ที่นำมาจากบ้านดอนเจดีย์ ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน ซึ่งชาวบ้านที่มาช่วยกันปลูกมาจาก ต.ดอนเจดีย์ โดยวิธีปลูกจะปลูกล้อมรอบลดหลั่นลงมาเป็นขั้นบันได รวม 4 ชั้น ชั้นที่ 4 จะติดกับที่ตั้งพระโกศ เป็นต้นข้าวที่ออกรวงแล้ว และเมื่อถึงเวลาถวายเพลิงพระศพ ก็จะออกมาเป็นสีทองเหลืองอร่ามสวยงาม ชั้น 3 เป็นต้นข้าวที่กำลังเติบโตออกรวงเขียวขจี ชั้นที่ 2 เป็นข้าวที่กำลังเติบโตสีเขียวขจี แต่ยังไม่ออกรวง และชั้นล่างสุด คือ ชั้นที่ 1 เป็นต้นข้าวปักดำใหม่
สำหรับเหตุผลที่นำข้าวพันธุ์หอมกาญจน์ มาปลูกเพื่อประดับรอบเมรุแทนไม้ดอกไม้ประดับ เนื่องจากทางวัด และคณะกรรมการวัด รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเห็นว่า เพื่อเป็นการแสดงถึงสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งการนับถือศาสนาพุทธของของชาวไทย อีกทั้งยังต้องการให้ชาวกาญจนบุรี และคนไทยทั้งประเทศได้เห็นคุณค่าของข้าว ที่ชาวนาได้ปลูกกันมาเป็นเวลาช้านาน แบบหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน จึงทำให้ทุกคนได้กินข้าวเป็นอาหารหลักมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับพิธีในวันนี้เริ่มในเวลา 14.00 น. เป็นพิธีดำเนินการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เวลา 16.30 น. ประกอบพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ณ บริเวณพระเมรุลอย (ชั่วคราว) ข้างหอพระประวัติฯ และในเวลา 20.00 น. พิธีนำดอกไม้จันทน์เข้าเผา ณ บริเวณพระเมรุลอย (ชั่วคราว) และคาดว่าจะมีประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี จะเดินทางมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวันนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากพระองค์ทรงมีพระชาติภูมิเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี และทรงบรรพชาเมื่อสมัยเป็นสามเณร
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับหลานสาวของสมเด็จพระสังฆราชฯ ที่มีอยู่ประกอบด้วย น.ส.รัตนา คชวัตร อายุ 65 ปี น.ส.สุภา คชวัตร อายุ 64 ปี และนางเต็มศิริ คชวัตร อายุ 55 ปี ทั้ง 3 เป็นบุตรีของนายจำเนียร คชวัตร น้องชายของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ดังนั้น น.ส.รัตนา คชวัตร น.ส.สุภา คชวัตร และนางเต็มศิริ คชวัตร จึงมีศักดิ์เป็นหลานของ “สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก” โดยแท้จริง