xs
xsm
sm
md
lg

คุมตัวไอ้ต้น-ไอ้มอส 2 ใน 6 ผู้ต้องหารุมฆ่าน้องเอิร์ต ทำแผน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ตำรวจ ทหารคุมตัวไอ้ต้น ลูกซอง 5 นัด และไอ้มอส มือตุ๊กตาปูนปั้น 2 ใน 6 ผู้ต้องหารุมฆ่าน้องเอิร์ต ทำแผน ใช้เวลาเพียง 10 นาที หวิดโดนรุมประชาทัณฑ์ขณะนำกลับ สภ.สวนข่าวลือฆ่าปิดปากยันไม่จริง ด้านแม่เหยื่อยันยังต้องให้ 6 ผู้ต้องหาเข้าขอขมาศพลูกชายก่อนเผา



เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (15 ธ.ค.) พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ยุทธชัย มีสายมงคล สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.บำรุง วสุนธรานิติกุล พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ร.ท.รตินนท์ เสนาณรงค์ หน.ชป.พท.ร.9 พัน 1 กรมทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ กำลัง ชป.พท.ร.9 พัน 1 กรมทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ กว่า 50 นาย

คุมตัว นายนิตินัย หรือมอส วัชรานุทัศน์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ ถ.แสงชูโต ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนร้ายที่ใช้ตุ๊กตาปูนปั้น และนายชัยอนุวัต หรือต้น รอดภัย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/8 หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนร้ายที่เดินเข้าไปเตะ พร้อมถืออาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ทำร้าย นายกฤษดา หรือน้องเอิร์ต อ่อนน้อม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ 3 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เสียชีวิต ขึ้นรถยนต์ตู้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกจาก สภ.เมืองกาญจนบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณจุดเกิดเหตุข้างร้านอาราเบียน ไน ตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมี นางกัญญา ทอยชเลอร์ แม่ของน้องเอิร์ต นางปาจารีย์ มหาสังข์ อาน้องเอิร์ต พร้อมทั้งญาติกว่า 50 คน เดินทางไปรอดูการทำแผนด้วยความเคียดแค้น

ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงจุดทำแผน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ได้เข้าไปเจรจากับทางญาติขอร้องไม่ให้ทำร้ายผู้ต้องหาขณะทำแผน ซึ่งทางญาติก็รับปาก แต่เพื่อความไม่ประมาทเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ และในเครื่องแบบ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารได้คอยยืนขวางกันเอาไว้ โดยมีการเจรจาอยู่ประมาณ 5 นาที จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัว 2 ผู้ต้องหา คือ นายนิตินัย หรือมอส แต่งกายนุ่งกางเกงขาสั้นสีเขียว สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ และนายชัยอนุวัต หรือต้น ที่นุ่งกางเกงยีนส์ สวมเสื้อยืดสีแดงแขนยาว โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเสื้อเกราะกันกระสุนสวมใส่ให้เพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องหา

สำหรับการนำ 2 ผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุเริ่มจากร้านที่ผู้ต้องหากับพวกมานั่งดื่มเบียร์ และพบผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ กับพวกภายในร้าน และจุดที่ผู้ต้องหาขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ หมายเลขทะเบียน ข 3098 กทม. มาจอดไว้ในขณะมานั่งดื่มเบียร์ภายในร้านอาหารอาราเบี้ยนเฮ้าส์ และจุดที่ผู้ต้องหาลงมือทำร้ายร่างกายของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ โดยการนำพาชี้จุดใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงแล้วเสร็จ ระหว่างนั้นบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตต่างตะโกนด่าทอ และสาปแช่งกันไปต่างๆ นานา โดยเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น จึงรีบนำพาตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์ตู้แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว

แต่เนื่องจากรถยนต์ตู้จะต้องยูเยิร์นกลับ สภ.เมืองกาญจนบุรี ที่เป็นถนนฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่า ญาติของผู้เสียชีวิตได้วิ่งข้ามถนนแล้วไปดักขวางรถยนต์ตู้คันดังกล่าวเอาไว้ จากนั้นได้พยายามเปิดประตูเพื่อเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ 2 ผู้ต้องหา จึงเกิดเหตุชุลมุนขึ้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่บนรถยนต์ตู้พยายามป้องกันเหตุเอาไว้อย่างเต็มกำลัง และสุดท้ายก็สามารถนำพาผู้ต้องหากลับ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ ท่ามกลางเสียงสาปแช่งตามหลัง

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งรวม 6 คน ก็เชื่อว่าพี่น้องประชาชนชาวไทยก็คงจะพอใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ สื่อมวลชนเองก็ได้ติดตามรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ผู้บังคับบัญชาก็สั่งการเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งก็เป็นจุดที่ทำให้เราสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนการที่ทางญาติของผู้เสียชีวิตมีความประสงค์ที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนไปขอขมาต่อหน้าศพ ซึ่งตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีปัญหา แต่จะต้องขึ้นอยู่กับตัวของผู้ต้องหาว่า มีความประสงค์ที่จะไปขอขมาศพหรือไม่ ประการที่สอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ต้องหาด้วย ซึ่งหากเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาไปขอขมาก็อาจจะเกิดอันตรายต่อตัวของผู้ต้องหาได้

สำหรับการที่นำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพียงแค่ 2 คนนั้น เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนสมัครใจที่จะให้เจ้าหน้าที่นำตัวมาทำแผน แต่เป็นเพียงแค่การชี้จุดเท่านั้น ส่วนผู้ต้องหาที่ไม่สมัครใจเราก็ต้องให้สิทธิเขา แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ต้องหาที่ไม่สมัครใจมาทำแผนชี้จุด เจ้าหน้าที่ไม่ได้กังวลอะไร เพราะหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่เห็นภาพการกระทำ รวมทั้งใบหน้าของผู้ต้องหาได้อย่างชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีทั้งพยานหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคล ซึ่งสามารถนำไปเป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดี จึงรับรองได้ว่าไม่เสียหายต่อรูปคดี

ส่วนข่าวที่ออกมาว่า น้องเอิร์ต ที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตเป็นการฆ่าปิดปาก เนื่องจากน้องเอิร์ต เป็นพยานปากสำคัญที่จะต้องชี้ตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุอาชญากรรมเมื่อในอดีตนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงอย่างที่มีข่าวออกมาแต่อย่างใด

ด้าน นางกัญญา ทอยชเลอร์ แม่ของน้องเอิร์ต เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตนกับญาติจึงรีบเดินทางมาดู และนี่เป็นครั้งแรกที่ตนมาดูจุดที่ลูกชายถูกทำร้ายเสียชีวิต ซึ่งสิ่งที่ครอบครัวต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือ ต้องการให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ไปขอขมาต่อหน้าศพของลูกชาย ก่อนที่จะทำการฌาปนกิจศพในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนกับญาติจะได้เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมอบดอกไม้แสดงความขอบคุณที่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด





กำลังโหลดความคิดเห็น