กาญจนบุรี - ตำรวจเมืองกาญจน์มาแปลก หิ้ว “ไอ้วิท ชุกโดน” หัวหน้าแก๊งตัวเมียทำแผนประกอบคำรับสารภาพแบบลับๆ ก่อนรีบคุมตัวฝากขังผลัดแรก
หลังจาก พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรมบุตร ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รองผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมือง พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงส์ ผกก.สส.ภ.จว. พ.ต.อ.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมือง พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร รอง ผกก.สส.ภ.จว. พร้อมชุดสืบสวน ภ.7 ชุดสืบสวน ภ.จว. ชุดสืบสวน สภ.เมือง ทหาร ร.9 พัน 1 กรมทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ แถลงข่าวการเข้ามอบตัวของ นายพงศ์วิทย์ เทพกาวีระ หรือวิท ชุกโดน หัวหน้าแก๊งชุกโดน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 หมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.851/2558 ลงวันที่ 6 ธ.ค.58 ซึ่งเป็น 1 ใน 6 คนร้ายที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายกฤษดา หรือเอิร์ต อ่อนน้อม อายุ 19 ปี เสียชีวิต และนายพีระพงษ์ หรือนิก เรืองจันทร์ อายุ 22 ปี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมือง พร้อมกำลังตำรวจกว่า 20 นาย คุมตัวนายพงศ์วิทย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพรวม 2 จุด จุดแรก คือ จุดที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ ขณะที่นายพงศ์วิทย์ เข้าไปทักทายนายกฤษดา ที่ยืนอยู่ริมถนนแสงชูโต ใกล้กับร้านอาหารที่ทุกคนเข้าไปดื่มกิน โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย ก่อนที่นายพงศ์วิทย์ จะเป็นคนประเคนหมัด และเท้าเข้าใส่นายกฤษดา จนล้มลง ก่อนที่จะถูกวัยรุ่นอีก 5 คน เข้ามารุมจนนายกฤษดาเสียชีวิต
จากนั้นได้รีบนำตัวนายพงศ์วิทย์ ขึ้นรถยนต์ไปทำแผนที่ต้นไทรขนาดใหญ่กลางป่าละเมาะ หมู่ 8 ต.แก่งเสี้ยน ซึ่งใช้เป็นสถานที่ซ่อนตัว และนำอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ซุกซ่อนไว้บนต้นไทร ซึ่งในวันดังกล่าว นายพงศ์วิทย์ ได้หลบหนีมาซ่อนตัวพร้อมกับนายนิตินัย หรือมอส วัชรานุทัศน์ อายุ 25 ปี และนายชัยอนุวัต หรือต้น รอดภัย อายุ 23 ปี โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วเสร็จได้รีบส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมือง นำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผลัดแรกทันที พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสื่อมวลชนทุกแขนงคอยติดตามทำข่าวอย่างใกล้ชิด เพราะคดีดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้แก่คนไทยทั้งประเทศ และทั่วโลก อีกทั้งไม่มีวี่แววมาก่อนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยไม่แจ้งให้สื่อมวลชนทราบ
