xs
xsm
sm
md
lg

รวบอีก 2 คนครบทีม 6 โจ๋ฆ่าหนุ่ม 19 เมืองกาญจนบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครปฐม - ปิดคดีฆ่าโหดหนุ่ม 19 เมืองกาญจนบุรี ตำรวจสืบภาค 7 นำทีมร่วมชุดคลี่คลายคดีจังหวัดกาญจนบุรี บุกรวบ “ไอ้มอส” และ “ไอ้ต้น” 2 ผู้ต้องหาที่หลบหนีไปกบดานกระท่อมร้างขณะกำลังย้ายที่หลบซ่อนตัว สารภาพสิ้นลงมือเพราะความเมา และเป็นปมบาดหมางแก๊งวัดเขาชุกโดน และแก๊งเตาปูน ยาวนาน

วันนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 4 ตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมพบุตร ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมชุดคลี่คลายคดี ประกอบด้วยชุด กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 ชุด กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี และ สภ.เมืองกาญจนบุรี ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่า นายกฤษดา หรือเอิร์ท อ่อนน้อม อายุ 19 ปี จนเสียชีวิต ทำร้ายร่างกาย คือ นายพีระพงศ์ หรือนิก เรืองจันทร์ อายุ 20 ปี เหตุเกิดที่หน้าร้านอาหารอิสลาม (ใกล้เคียงร้านอาหารอาราเบี้ยนเฮ้าส์) ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 03.30 น. ของคืนวันที่ 6 ธันวาคม 58 ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ในการจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ที่ยังหลบหนี จากผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 ราย ประกอบด้วย นายนิตินัย หรือมอส วัชรานุทัศน์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหารายที่ 4 คนที่ใช้ตุ๊กตาหินทุ่มใส่ผู้ตาย และนายอนุวัต หรือต้น รอดภัย อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาที่ 6 คนที่พกอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ โดยจับกุมได้เมื่อช่วงวันที่ 14 ธ.ค.58 ที่กระท่อมร้างใกล้สนามกอล์ฟเอเวอร์กรีนแลนด์ ม.4 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยของกลางตุ๊กตาหินที่ใช้ที่ใช้ทุ่มใส่ผู้ตาย 1 ตัว

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เท่ากับเป็นการจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้ง 6 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ สามารถกดดัน และเข้าจับกุมและมีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแล้ว 4 ราย คือ นายติณห์ หรือเว เทวกุล อายุ 21 ปี นายไพศาล หรือโอ๊ต จันเมธากุลวัฒน์ อายุ 20 ปี นายพงษ์วิทย์ หรือวิท เทพกาวีระ อายุ 21 ปี และเมื่อวาน นายปริญญ์ หรือนาย ปิ่นโรจน์ อายุ 18 ปี ได้เข้ามอบตัว โดยมีมารดานำตัวมาส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เท่ากับทุกคนนั้นถูกควบคุมตัวครบแล้ว

ส่วนสาเหตุทราบว่าเกิดจากความขัดแย้งของกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเขาชุกโดน และกลุ่มเตาปูน ที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งจากนี้คาดว่าความขัดแย้งนั้นจะหมดลงเพราะปลายทางคือ ติดคุกับความตายที่เกิดขึ้น โดยจะมีการกำชับให้มีการกวดขันให้มีการดูแลจับตากลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องขัดแย้งกันในทุกๆ พื้นที่แบบเข้มงวดเพื่อป้องกันเหตุ และการจับกุมผู้ต้องหา 2 คนนี้ เป็นการไล่ล่าประชิดตัว จนทราบว่า ไปหลบอยู่ที่จุดที่พบตัว และเข้าชาร์จจับกุมได้ขณะหลบหนีเปลี่ยนที่พักโดยใช้รถกระบะแต่ไม่ทันการณ์

“สำหรับการสังหารโหดครั้งนี้ เกิดจากกลุ่มคนร้ายที่ได้มารวมตัวกัน และมานั่งดื่มสุราจนเมา ได้เห็นผู้ตายมาอยู่ใกล้เคียง และเกิดการเขม่น และระแวงจะมีการทำร้ายกัน โดยเกรงฝ่ายผู้ตายจะยกพวกมาทำร้าย จึงได้ออกไปร่วมกันทำร้ายร่างกายกันอย่างโหดเหี้ยมจนมีคนเจ็บ และตายดังกล่าว ซึ่งจะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และไม่ได้เป็นคดีซับซ้อนแต่เป็นจุดที่จะมีการเข้มงวดกันต่อไป ซึ่งสาเหตุที่ทั้ง 2 คน ไม่ได้เข้ามอบตัว เพราะนายนิตินัย หรือมอส นั้นยังมีคดีติดตัวและยังหนีหมายศาลด้วย ซึ่งตำรวจตามแกะรอยได้ไม่ยาก” พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 กล่าว

ด้าน นายนิตินัย หรือมอส อายุ 24 ปี สารภาพว่า ได้ร่วมก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยในวันเกิดเหตุตนและเพื่อนได้นั่งดื่มสุราจนเมาได้ที่ และเห็นผู้ตายซึ่งจำได้ว่าเคยมีเรื่องกันมาเห็นพวกตน และมีการตามกลุ่มเพื่อนซึ่งคิดว่าจะมาทำร้ายพวกตน จึงได้ออกไปทำร้ายร่างกายแต่ไม่คิดว่าจะถึงแก่ความตาย ส่วนที่ยกตุ๊กตาหินทุ่มใส่ผู้ตายตามภาพที่ปรากฏก็ยอมรับว่าทำจริง

“ผมเคยเห็นหน้าพวกเขาผมจำได้ว่าเป็นแก๊งอริที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ซึ่งแก๊งผมกับแก๊งเขานั้นมีมานาน และมีเรื่องกันมาหลายครั้ง ซึ่งผมก็เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากให้ความขัดแย้งของทั้ง 2 กลุ่มหยุดลงได้แล้ว โดยเฉพาะน้องๆ รุ่นหลัง และอยากแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้ตายกับสิ่งที่ทำลงไป” นายมอส นั่งแถลงด้วยอาการสลด

ต่อคำถามที่ว่าในโลกโซเชียลมีการออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การกระทำของผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม และเรียกร้องให้มีการประหารชีวิต นายนิตินัย หรือมอส บอกว่า ไม่ได้รับสื่อใดๆ และไม่รู้เรื่องกระแสโลกโซเชียล และแสดงอาการถอดสีหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ต่อผู้สื่อข่าวที่ได้ถามไปก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปในรถ

ด้าน ชัยอนุวัฒน์ หรือต้น อายุ 23 ปี สารภาพว่า ร่วมก่อเหตุ และเป็นคนที่ชักอาวุธปืนเข้ามาข่มขู่กลุ่มผู้ตาย และได้นำอาวุธปืนมาจากเพื่อน เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังแถลงเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องหาไปทำการสอบปากคำที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างเข้มงวด โดยมีกลุ่มผู้สื่อข่าวมาติดตามการแถลงข่าวปิดคดีสำคัญนี้เป็นจำนวนมาก



กำลังโหลดความคิดเห็น