เพชรบุรี - ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบุรี สนธิกำลังชุดสืบสวนเขาย้อย และปากท่อ แกะรอยตามรวบตัว “แสบ ปากท่อ” เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ได้พร้อมของกลางทั้งยาบ้า และยาไอซ์จำนวนมาก เผยก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหารายดังกล่าวเคยประกาศศักดาจะไม่ยอมถูกจับ
วันนี้ (28 ต.ค.) พ.ต.อ.ชวน ชิตประเสริฐ ผกก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ชนาวิน สุริยะพรหม สว.กก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี สนธิกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี และกำลังชุดสืบสวน สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายกฤษฎา หรือแสบ เที่ยงตรง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.1 ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ในห้องพักห้องที่ 7 โรงแรมบ้านนก ม.2 ต.บางเค็ม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
หลังทราบว่า นายกฤษฎา เข้ามาพักอาศัยอยู่ในห้องพักดังกล่าว และมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้แก่ลูกค้ารายย่อยในเขต จ.เพชรบุรี จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม เป็นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดในเขตพื้นที่ จ.ราชบุรีมาแล้ว และเป็นบุคคลอันตรายจะพกอาวุธปืนติดตัวไว้ในการจำหน่ายยาบ้าตลอดเวลา ซึ่งเคยประกาศตัวไว้ว่าจะไม่ยอมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมอีก ตำรวจจึงนำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมตัวได้ในที่สุด
จากการตรวจค้นห้องพัก พบยาไอซ์ น้ำหนักรวม 56.98 กรัม วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง และพบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้า อยู่รวมกันในขวดพลาสติกวางอยู่บริเวณชั้นวางโทรทัศน์ภายในห้องพัก จำนวน 3,792 เม็ด เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง อาวุธปืนพกสั้นกึ่งออโตเมติกขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนชนิดเดียวกัน 10 นัด สมุดบัญชี 1 เล่ม จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี โดยมี พ.ต.อ.ภูวเดช ราญสระน้อย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.นภดล ธุวังควัฒน์ ผกก.สภ.เขาย้อย ร่วมสอบสวนผู้ต้องหา
โดย นายกฤษฎา ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้า และยาไอซ์ทั้งหมดที่พบเป็นของตนเองจริง มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งรับยาบ้า และยาไอซ์ดังกล่าวมาจาก นายแป๊ะ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุประมาณ 30 ปี ชาว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม โดยรับยาบ้ามาในราคาถุงละ 10,000 บาท นำมาแยกจำหน่ายราคาถุงละ 15,000 บาท ซึ่งในครั้งนี้ตนรับยาบ้ามาทั้งหมด จำนวน 18 ถุง ส่วนยาไอซ์ ตนรับมาจำนวนประมาณ 50 กรัม เพื่อนำมาจำหน่ายกรัมละ 1,800 บาท ซึ่งราคาค่ายาไอซ์ตนจะตกลงกับนายแป๊ะ อีกครั้งหลังจากจำหน่ายหมด
ส่วนอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวซื้อมาจาก นายธนากร หรืออ๊อด สร้างสีเทา ในราคา 68,000 บาท ซึ่งยังไม่มีการโอนทางทะเบียน และตนไม่เคยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีหรือใช้อาวุธปืนแต่อย่างใด ตำรวจจึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
จากนั้นได้นำตัวไปขยายผลการจับกุม โดยให้ นายกฤษฎา โทรศัพท์ไปสั่งซื้อยาบ้าจากนายแป๊ะอีก 3 มัด ประมาณ 6,000 เม็ด โดยนัดส่งของกลางกันที่หน้าห้องน้ำภายในปั๊มโชคสันติ ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ม.2 ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี แต่นายแป๊ะ ให้ลูกน้องนำของกลางมาส่งให้
เมื่อเป้าหมายขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ สีม่วงดำ หมายเลขทะเบียน สปม 335 กทม.มาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันที ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายเกริกพล ดิษฐผจญภัย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 440/1 ถ.เพชรสมุทร ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม และนายปริญญา เสือพิทักษ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/10 ม.4 ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม จากการตรวจค้นพบยาบ้า 3 มัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า ตรวจนับได้ยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้าทั้งหมด 29 ถุงๆ ละ 200 เม็ด รวม 5,800 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
จากการสอบสวน นายปริญญา เสือพิทักษ์ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของตนจริง ได้รับการว่าจากชายคนหนึ่ง ทราบชื่อเล่นเพียงว่า นายบอย อายุประมาณ 20-25 ปี ชาว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ให้นำยาบ้าดังกล่าวมาส่งให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ อ.เขาย้อย โดยให้ติดต่อกันทางหมายเลขโทรศัพท์เมื่อเดินทางถึงยังจุดนัดหมาย ซึ่งจะได้ค่าจ้าง จำนวน 3,000 บาท จึงชักชวนนายเกริกพล ดิษฐผจญภัย มาเป็นเพื่อน และแบ่งเงินให้ 1,000 บาท แต่เมื่อมาถึงจุดนัดก็ถูกตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป