กาญจนบุรี - นักท่องเที่ยวเรือนหมื่นแห่ทะลักสะพานมอญ เพียงเสาร์-อาทิตย์คาดเงินสะพัดร่วม 10 ล้านบาท ด้าน นอภ.เตือนขับรถอย่าประมาท แนะเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนเดินทาง เหตุมีปั๊มเพียงแห่งเดียว ส่วน ปลัด ทต.วังกะ แนะ นทท.ทิ้งขยะให้ถูกทาง หวั่นเสียภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวเหมือนในอดีต
วันนี้ (13 ธ.ค.58) นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิกเผยว่า ปัจจุบันกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว สำหรับพื้นที่อำเภอสังขละบุรี อุณหภูมิในช่วงเช้าอยู่ที่ 21 องศา มีหมอกหนาในตอนเช้า ถือว่าอากาศกำลังเย็นสบาย ส่วนอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 27 องศา ในช่วงบ่าย สำหรับพื้นที่อำเภอสังขละบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นจำนวนมาก เช่น โบสถ์จมน้ำวัดหลวงพ่ออุตตมะ หรือที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเรียกกันว่า เมืองบาดาล และแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศคือสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ที่ข้ามลำนำซองกาเรีย เชื่อมต่อระหว่างชุมชนชาวมอญ บ้านวังกะ หมู่ 2 กับบ้านไหล่น้ำ หมู่ 3 เขตอำเภอสังขละบุรี สถานที่แห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เมื่อได้มาทุกคนจะต้องไปชมบรรยากาศพร้อมถ่ายรูปบนสะพานเอาไว้เป็นที่ระลึก
ช่วงระหว่างวันเสาร์และวันอาทิตย์ พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคน หรือมากกว่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะจองที่พักเอาไว้ล่วงหน้านานหลายเดือน ทำให้ห้องพักเต็มเกือบทั้งหมด แต่ก็ยังมีสถานที่เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการกางเต็นท์นอนอีกหลายแห่ง สำหรับรีสอร์ทที่มีอยู่ก็มีเต็นท์ไว้คอยบริการด้วย ที่ผ่านมาคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดกระจายไปทั่วพื้นที่อำเภอสังขละบุรีร่วม 10 ล้านบาท
แต่ก็อยากฝากไปถึงผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท ร้านค้านและร้านอาหารต่างๆ อย่าฉวยโอกาสเอาเปรียบนักท่องเที่ยวด้วยการขึ้นราคาที่พัก หรือค่าอาหารอย่างเด็ดขาด ขอให้คิดราคาค่าที่พัก หรือค่าอาหารในราคาตามปกติเหมือนเช่นที่ไม่ใช่ช่วงเทศกาล ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวที่มารู้สึกประทับใจ โอกาสหน้าจะได้เดินทางมาเที่ยวใหม่
และอยากแนะนำไปถึงนักท่องเที่ยวที่นำรถยนต์มาด้วยตนเอง ก็ขอให้เติมน้ำมันก่อนเดินทางมาอำเภอสังขละบุรีให้เต็มถังเสียก่อน โดยขอให้แวะเติมน้ำมันที่อำเภอทองผาภูมิ เพราะในอำเภอสังขละบุรีมีปั๊มน้ำมันเพียงแห่งเดียว หากน้ำมันที่ปั๊มหมด นักท่องเที่ยวจะต้องเสียเวลาในการรอเติมน้ำมันนานกว่า 3-4 ชั่วโมง และขอให้นักท่องเที่ยวขับรถด้วยความระมัดระวัง เพราะเส้นทางระหว่างอำเภอทองผาภูมิมาอำเภอสังขละบุรี เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวอีกทั้งต้องขับขึ้นลงภูเขาตลอดระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร
ด้านนายมานพ เกิดแดง ปลัดอำเทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี กล่าวว่า การที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งที่ทางเทศบาลเป็นห่วงและค่อนข้างกังวลใจก็คือปัญหาเกี่ยวกับขยะมูลฝอย เพราะเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา ได้พบปัญหาการทิ้งขยะไม่ถูกที่ถูกทางเป็นจำนวนมาก บางครั้งนักท่องเที่ยวที่ซื่อน้ำดื่มใส่ถุงพลาสติก หรือซื้อน้ำดื่มที่เป็นขวดพลาสติก หลังจากดื่มหมดก็จะวางทิ้งเอาไว้ตามมุมตามซอกบนสะพานมอญ และมีการถ่ายภาพแล้วนำไปลงในโลกโซเชียล ทำให้อำเภอสังขละบุรีเสียภาพลักษณ์ด้านการรักษาความสะอาดของแหล่งท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ดังนั้นขอให้นักท่องเที่ยวที่เดินมาชมบรรยากาศที่สะพานมอญ หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ขอให้นำขยะที่ท่านมีอยู่นำไปทิ้งที่ถังขยะที่ทางเทศบาลตั้งเอาไว้ตามจุดต่างๆที่อยู่โดยรอบแหล่งท่องเที่ยวด้วย ส่วนผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท หรือร้านค้า ร้านอาหาร ที่มีอยู่ในพื้นที่ ก็ขอให้จัดเตรียมถังขยะเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวในที่ที่เหมาะสม รวมทั้งอย่าทิ้งขยะ หรือน้ำเสียลงในแม่น้ำโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้น้ำในลำน้ำเน่าเสียได้ ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของอำเภอสังขละบุรี และตัวผู้ประกอบการเอง
วันนี้ (13 ธ.ค.58) นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิกเผยว่า ปัจจุบันกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว สำหรับพื้นที่อำเภอสังขละบุรี อุณหภูมิในช่วงเช้าอยู่ที่ 21 องศา มีหมอกหนาในตอนเช้า ถือว่าอากาศกำลังเย็นสบาย ส่วนอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 27 องศา ในช่วงบ่าย สำหรับพื้นที่อำเภอสังขละบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นจำนวนมาก เช่น โบสถ์จมน้ำวัดหลวงพ่ออุตตมะ หรือที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเรียกกันว่า เมืองบาดาล และแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศคือสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ที่ข้ามลำนำซองกาเรีย เชื่อมต่อระหว่างชุมชนชาวมอญ บ้านวังกะ หมู่ 2 กับบ้านไหล่น้ำ หมู่ 3 เขตอำเภอสังขละบุรี สถานที่แห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เมื่อได้มาทุกคนจะต้องไปชมบรรยากาศพร้อมถ่ายรูปบนสะพานเอาไว้เป็นที่ระลึก
ช่วงระหว่างวันเสาร์และวันอาทิตย์ พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคน หรือมากกว่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะจองที่พักเอาไว้ล่วงหน้านานหลายเดือน ทำให้ห้องพักเต็มเกือบทั้งหมด แต่ก็ยังมีสถานที่เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการกางเต็นท์นอนอีกหลายแห่ง สำหรับรีสอร์ทที่มีอยู่ก็มีเต็นท์ไว้คอยบริการด้วย ที่ผ่านมาคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดกระจายไปทั่วพื้นที่อำเภอสังขละบุรีร่วม 10 ล้านบาท
แต่ก็อยากฝากไปถึงผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท ร้านค้านและร้านอาหารต่างๆ อย่าฉวยโอกาสเอาเปรียบนักท่องเที่ยวด้วยการขึ้นราคาที่พัก หรือค่าอาหารอย่างเด็ดขาด ขอให้คิดราคาค่าที่พัก หรือค่าอาหารในราคาตามปกติเหมือนเช่นที่ไม่ใช่ช่วงเทศกาล ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวที่มารู้สึกประทับใจ โอกาสหน้าจะได้เดินทางมาเที่ยวใหม่
และอยากแนะนำไปถึงนักท่องเที่ยวที่นำรถยนต์มาด้วยตนเอง ก็ขอให้เติมน้ำมันก่อนเดินทางมาอำเภอสังขละบุรีให้เต็มถังเสียก่อน โดยขอให้แวะเติมน้ำมันที่อำเภอทองผาภูมิ เพราะในอำเภอสังขละบุรีมีปั๊มน้ำมันเพียงแห่งเดียว หากน้ำมันที่ปั๊มหมด นักท่องเที่ยวจะต้องเสียเวลาในการรอเติมน้ำมันนานกว่า 3-4 ชั่วโมง และขอให้นักท่องเที่ยวขับรถด้วยความระมัดระวัง เพราะเส้นทางระหว่างอำเภอทองผาภูมิมาอำเภอสังขละบุรี เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวอีกทั้งต้องขับขึ้นลงภูเขาตลอดระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร
ด้านนายมานพ เกิดแดง ปลัดอำเทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี กล่าวว่า การที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งที่ทางเทศบาลเป็นห่วงและค่อนข้างกังวลใจก็คือปัญหาเกี่ยวกับขยะมูลฝอย เพราะเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา ได้พบปัญหาการทิ้งขยะไม่ถูกที่ถูกทางเป็นจำนวนมาก บางครั้งนักท่องเที่ยวที่ซื่อน้ำดื่มใส่ถุงพลาสติก หรือซื้อน้ำดื่มที่เป็นขวดพลาสติก หลังจากดื่มหมดก็จะวางทิ้งเอาไว้ตามมุมตามซอกบนสะพานมอญ และมีการถ่ายภาพแล้วนำไปลงในโลกโซเชียล ทำให้อำเภอสังขละบุรีเสียภาพลักษณ์ด้านการรักษาความสะอาดของแหล่งท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ดังนั้นขอให้นักท่องเที่ยวที่เดินมาชมบรรยากาศที่สะพานมอญ หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ขอให้นำขยะที่ท่านมีอยู่นำไปทิ้งที่ถังขยะที่ทางเทศบาลตั้งเอาไว้ตามจุดต่างๆที่อยู่โดยรอบแหล่งท่องเที่ยวด้วย ส่วนผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท หรือร้านค้า ร้านอาหาร ที่มีอยู่ในพื้นที่ ก็ขอให้จัดเตรียมถังขยะเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวในที่ที่เหมาะสม รวมทั้งอย่าทิ้งขยะ หรือน้ำเสียลงในแม่น้ำโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้น้ำในลำน้ำเน่าเสียได้ ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของอำเภอสังขละบุรี และตัวผู้ประกอบการเอง
